เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ “Dow Dow” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ขอแชร์เรื่องราวที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวตัวเอง เนื่องจากวันเสาร์ที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ทางวัด ในพื้นที่ ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มีงานบุญกฐิน แม่ก็ได้ไปช่วยงานบุญที่วัดและแม่ก็อยู่กับยาย แต่ยายก็ป่วยมาหลายเดือนและตอนเย็นวันเสาร์แม่ก็ไปสวดมนต์เย็นที่วัด และไห้ยายนอนอยู่บ้านตามลำพัง แม่จะล็อคประตูแต่ยายแกไม่ให้ล็อค แม่ก็เลยไปวัด พอกลับมาก็ต้องมาเจอเรื่องที่ไม่น่าเกิด ยายได้บอกแม่และน้าว่ามีผู้ชายได้เข้ามาอุ้มแกออกไปข้างนอกที่มืดใต้ต้นมะม่วงบริเวณรอบบ้าน ทุกคนใจสลายและทุกคนก็ตกใจและเช้าวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา หลานสาวข้างบ้านติดโควิด-19 แม่จึงออกไปแจ้งความไม่ได้ถูกกักตัว ดิฉันพึ่งได้ทราบข่าววันนี้ตกใจมาก ส่วนตัวเองก็ไม่สบายโรคหัวใจต้องกินยาทุกวัน แต่ที่ได้แชร์วันนี้ ขอเตือนภัยให้ระวังคนในครอบครัวไม่ว่าเด็กหรือคนชรา เพราะทุกวันนี้สังคมอยู่ยากขึ้นทุกวัน และวันนี้ตำรวจได้ไปที่บ้านหลายนาย แต่ยังตามจับคนร้ายไม่ได้ และดิฉันและครอบครัวขอประณามคนชั่วคนนั้นที่มาทำร้ายในครอบครัวของเรา พวกเราจะเอาเรื่องผู้ชายคนนั้นให้ถึงที่สุด และขอให้สังคมช่วยเหลือยายที่ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงบาลตอนนี้ แม่ของดิฉันแกก็ไม่สบายเช่นกัน ขอให้หน่วยงานบางส่วนลงมาช่วยเหลือและคุ้มครองคนแก่ ซ้ำยังมาทำร้ายคนแก่ที่ป่วยอีกขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านด้วยคะ”
หลังจากข้อความดังกล่าวถูกแชร์ออกไปในโลกโซเชียลไม่นาน ต่างมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นห่วงใยและประณามการกระทำของคนร้ายเป็นอย่างมาก พร้อมกับแชร์ต่อกันไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ที่เกิดเหตุในพื้นที่ ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พบ นางแดง (นามสมมุติ) อายุ 66 ปี กำลังดูแล นางสวย (นามสมมุติ) อายุ 83 ปี พี่สาว ซึ่งมีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคชรา แขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถเดินไปมาได้เพียงลำพัง อยู่ภายในบ้านปูนชั้นเดียว ซึ่งอยู่ตรงข้าวกับประตูทางเข้าวัด ทางด้านติดตะวันตก โดย นางแดง เล่าว่า ตนกับพี่สาวอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวเพียง 2 คน ลูกๆหลานๆ ไปทำงานต่างจังหวัดกันหมดทุกคน ซึ่งยายสวย พี่สาว อายุมากแล้ว ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.00 น. ตนได้ออกไปช่วยงานกฐินภายในวัดซึ่งไม่ไกลจากบ้านมากนัก โดยปกติตนจะล็อคประตูเหล็กให้ยายอยู่ภายในบ้านคนเดียว แต่วันเกิดเหตุยายไม่ยอมให้ล็อคประตู ตนจึงปิดประตูบ้านไว้แต่ไม่ได้ล็อคกุญแจ จากนั้นหลังเสร็จงานสวดมนต์ฉลองกฐิน ตนได้เดินทางกลับมาที่บ้าน ไม่เห็นยายจึงร้องเรียกและเดินหาทั่วบ้านก็ไม่เจอ จึงเดินไปเรียกญาติให้ช่วยตามหา ปรากฏว่าพบยายนั่งขดตัวอยู่ในมุมมืดใต้ต้นมะม่วงริมรั้ว ซึ่งห่างจากตัวบ้านประมาณ 10 เมตร ในสภาพเปลือยท่อนล่าง พบผ้าถุงตกอยู่ใต้เตียงในตัวบ้าน สวมเพียงเสื้อคอกระเช้าอยู่ตัวเดียว ตนรู้สึกตกใจมาก และไม่น่าเชื่อว่ายายจะมาถึงจุดนี้ได้ด้วยตนเอง ซ้ำยังอยู่ในสภาพเปลือย จึงเค้นถามอยู่หลายรอบ ซึ่งยายก็พูดจาวกไปเวียนมา จึงรีบอุ้มยายกลับเข้าบ้านพร้อมกับอาบน้ำและหาเสื้อผ้าสวมใส่ให้
กระทั่งวันต่อมาตนได้พยายามถามอีกครั้งว่ายายไปจุดนั้นได้อย่างไร ซึ่งยายตอบว่า มีผู้ชายร่างใหญ่วัยกลางคน อุ้มยายมาที่ใต้ต้นมะม่วง หลังทราบเรื่องตนจึงรีบเดินทางไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อให้ติดตามตัวคนร้าย ซึ่งคาดว่ายายอาจถูกคนร้ายข่มขืนหรืออาจถูกล่วงละเมิดทางเพศ จากนั้นได้พายายไปตรวจร่างกายที่ รพ.กันทรลักษ์ ซึ่งแพทย์แจ้งว่าจะทราบผลการตรวจร่างกายในวันที่ 1 ธ.ค. นี้.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน