มุกดาหาร(ชมคลิป)นรข.สนธิกำลังจับกัญชา 300กิโลริมฝั่งแม่น้ำโขงอำเภอหว้านใหญ่


สถานีเรือมุกดาหาร สนธิกำลังหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ จับกุมกัญชาอัดแท่งจำนวน 300 กก.มูลค่าประมาณ 2,400,000 บาท ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงอำเภอหว้านใหญ่ พร้อมรถเก๋ง 1 คัน ผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ ส่วนแรงงานต่างด้าว ได้ตรวจเข้มตามแนวชายแดน ไม่ให้ทะลักเข้าสู่ตอนใน เพื่อเป็นการสกัดกั้นโรควิด – 19 ไม่ให้แพร่ระบาดในประเทศ
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 64 นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง น.อ.พรภิรมย์ ยศบุญ ผบ.นรข.เขตนครพนม พ.ต.อ.วิจิตร บุญวรรณ ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร น.ท.พิเชษฐ์ เมืองโคตร ผบ.หมู่เรือที่ 3 และ รรก.หน.สน.เรือมุกดาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารพราน ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงจับกุมกัญชาอัดแท่งจำนวน 300 กก. พร้อมรถเก๋ง 1 คัน
สืบเนื่องจาก พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผบ.นรข. น.อ.พรภิรมย์ ยศบุญ ผบ.นรข.เขตนครพนม ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ว่าจะมีการลักลอบส่งยาเสพติด ในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านนาแกน้อย ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร จึงได้สั่งการให้ น.ท.พิเชษฐ์ เมืองโคตร ผบ.หมู่เรือที่ 3 และ รรก.หน.สน.เรือมุกดาหาร ประสานทหารพราน ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ปกครอง ประชุมวางแผน และจัดชุดปฏิบัติการ ของ สน.เรือมุกดาหาร ออกปฏิบัติการตามข่าวที่ได้รับพร้อมทั้งได้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และได้ส่งชุดปฏิบัติการข่าวของหน่วย ลงพื้นที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ตั้งแต่ บ้านนาแกน้อย จนถึงบ้านแก่งกะเบา ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร และส่งชุดเคลื่อนที่เร็วของ สน.เรือมุกดาหาร เข้าประจำจุดตรวจจุดสกัดตามเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างเส้นทางริมแม่น้ำโขงเข้าสู่ถนนหลักสนับสนุนเพิ่มเติม
ต่อมาในเวลา ประมาณ 21.00 น.( วันที่ 31 ต.ค. ) ได้รับการยืนยันอีกครั้งจากสายข่าวว่า มีการลักลอบส่งยาเสพติดแล้ว แต่ไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าบริเวณใด จนกระทั่งเวลา 21.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว ประจำจุดแยก บ้านแก่งกะเบา ตรวจพบ รถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรล่า อัลตีส สีดำ หมายเลขทะเบียน 3 กฉ 7295 กทม. ขับมุ่งหน้าไปทาง อ.ธาตุพนม เจ้าหน้าที่ชุดปฺฏิบัติการข่าวจึงได้ทำการติดตามอย่างใกล้ชิด และประสานชุดเคลื่อนที่เร็วชุดอื่น ๆ ในพื้นที่เพื่อสกัดกั้นและไล่ติดตาม เมื่อรถยนต์ต้องสงสัยขับมาถึงบริเวณสามแยกบ้านน้ำก่ำเหนือ ก็ได้เลี้ยวซ้ายตรงไปยังแยกไฟแดงบ้านต้อง และรถยนต์ต้องสงสัยขันดังกล่าวก็ได้ขับเลี้ยวซ้ายไปตามถนนหมายเลข 223 เส้นทาง นาแก – สกลนคร เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจึงได้ทำการไล่ติดตามไป พอมาถึงแยกจอมมณี รถยนต์คันดังกล่าวได้เลี้ยวซ้าย มุงเข้าสู่ อ.ดงหลวง และได้รับการยืนยันจากสายข่าวแน่ชัดแล้วว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถขนยาเสพติดจริง
ชุดปฏิบัติการข่าวจึงวางแผนจะทำการสกัดกั้นและจับกุม เมื่อชุดปฏิบัติการติดตามมาจนถึงบริเวณบ้านห้วยยาง ต.ดงมอน แล้วจึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจสอบ เมื่อคนขับรถคันดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับรถเบี่ยงลงข้างทางแล้วเร่งความเร็วหลบหนี เมื่อมาถึงบริเวณ ไฟแดงบ้านผึ่งแดดรถคันดังกล่าวก็ได้ลดความเร็วลง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจึงขับรถมาทางข้างรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าว และ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ได้ทำสัญญาณมือ ให้รถยนต์ดังกล่าวหยุด แต่ก็ยังคงเร่งความเร็วเพื่อหลบหนีเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงทำไล่ติดตามรถยนต์ คันดังกล่าวเพื่อให้หยุดรถ แต่รถคันดังกล่าวก็ยังไม่มีทาทีว่าจะหยุดรถและเพิ่มความเร็วและขับหลบหนี ไปทางถนนทางหลวง หมายเลข 12 ถนนตัดใหม่เส้น มุกดาหาร – กุฉินารายณ์ เมื่อมาถึงพื้นที่ปลอดภัยห่างไกลจากชุมชน และรถยนต์คันดังกล่าวไม่มีทาทีว่าจะหยุดรถอย่างแน่นอน ชุดปฏิบัติการจึงตัดสินใจ ทำการยิงสกัดไปที่ยางรถยนต์ ทำให้ยางรถคันดังกล่าวระเบิดและเสียหลักลงข้างทาง หลังจากนั้นชุดปฏิบัติการจึงตามเข้าตรวจสอบภายในรถ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและเปิดรถยนต์คันดังกล่าวปรากฏว่า คนขับได้หลบหนีไปแล้วโดยอาศัยความมืดหนีเข้าไปในป่าข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังไม่พบผู้ต้องสงสัย
เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบภายในรถยนต์ต้องสงสัยที่จอดเสียหลักอยู่อย่างละเอียดอีกครั้ง จากการตรวจสอบเบื่องต้นตรวจพบห่อพลาสติกสีดำ ในผากระโปรงท้ายรถ จำนวน 6 กระสอบ และภายในตัวรถด้านหลังเบาะคนขับ จำนวน 6 กระสอบ รวมทั้งหมด 12 กระสอบ และตรวจค้นภายในรถเพื่อหาหลักฐานอื่น ๆ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ สน.เรือมุกดาหารทำการตรวจนับกัญชารวมทั้งหมดจำนวน 300 กก. มูลค่าประมาณ 2,400,000 บาท จากนั้นได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ. คำชะอี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผบ.นรข. เปิดเผยว่า ส่วนกรณีแรงงานต่างด้าว ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะเปิดประเทศ ได้สั่งการให้กับงานความมั่นคงในพื้นที่ ทางกองทัพเรือในนโยบายร่วมกับรัฐบาลโดยจังหวัดเป็นหลัก เข้าไปร่วมสกัดกั้นตามสถานที่ต่าง ๆ มีมาตรการถ้าไม่ถูกกฎหมายจะไม่ให้เข้ามา เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องนโยบายของประเทศ ในฐานะหน่วยงาน นรข. เป็นองค์กรหนึ่งที่จะร่วมงานกับภาครัฐ เพื่อเป็นการสกัดกั้นเคลื่อนย้ายกำลังคน แรงงานที่ถูกกฎหมายจะมีหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานต่าง ๆ มีมาตรการคัดกรอง และตรวจหาเชื้อ ATK ต่าง ๆ
อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ / มุกดาหาร