เมื่อเวลา08.30น.วันที่ 2 ตุลาคม 2564เวล พ.ต.ท.เจษฎา ว่องไว สว. สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอตายที่หอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยปลอดภัย เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงได้รุดไปตรวจสิบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม
พบเป็นหอพักปูน 2 ชั้น ที่ห้องพักหมายเลข 18 ชั้นล่าง บริเวณระเบียงข้างห้องน้ำ พบศพ น.ส.มนัสชนก จ่าโน อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่16 ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอกับเหล็กดัดหน้าต่าง สภาพศพสวมเสื้อยืดสีชมพูดำ กางเกงขายาวลายขาวดำ ตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ จากการชันสูตรไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เสียชีวิตมาประมาณ 1 ชม. โดยแฟนหนุ่มกับเพื่อนที่ทำงานของผู้ตาย ได้ร้องไห้ ด้วยความเสียใจ
จากการสอบสวนนายภาณุรักษ์ สุนทรปิยะโสต อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 282/1 หมู่ 4 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี แฟนผู้ตาย ให้การว่า ตนและผู้ตายเป็นพนักงานขายมือถือที่บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ตนกับผู้ตาย ได้คบหาเป็นแฟนกันมาได้ 5 ปี แล้วก็มาเช่าห้องพักอยู่ด้วยกัน แต่บางวันตนจะกลับบ้านไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ เพราะแม่ตนอยู่บ้านคนเดียว ก่อนเกิดเหตุ เมื่อคืนนี้หลังเลิกงาน ตนและผู้ตายอยู่ด้วยกัน จนเวลาประมาณ 22.00 น. ตนได้กลับไปนอนที่บ้าน ผู้ตายอยู่ที่ห้องคนเดียว
จนกระทั่งเช้านี้เวลา 06.25 น. ผู้ตายได้ส่งข้อความไปหาตน บอกระหัสล็อคหน้าจอมือถือ และโอนเงินในบัญชีเกือบ 4000 บาทมาให้ ตนจึงถามกลับไปว่าบอกตนทำไม และคิดว่าผู้ตายคิดมากเรื่องหนี้สิน คงจะไม่อยากไปทำงาน และกลับไปตั้งหลักที่บ้าน ตนจึงรีบกลับมาที่ห้องถึงเวลา 07.30 น. ก็พบว่าผู้ตายใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตายแล้ว ส่วนสาเหตุคงเพราะผู้ตายกลุ้มใจเรื่องหนี้สิน จำนวน1แสนกว่าบาท ทั้งในระบบและนอกระบบ ทั้งของผู้ตายเองและที่ช่วยเหลือคนอื่น แต่กลับไม่ใช้หนี้ทำให้ผู้ตายแบกรับหนี้สินคนเดียว หาทางออกไม่ได้ จึงคิดสั้น
ส่วนน.ส.สุภาภรณ์ เง่าสุข อายุ 27 ปี เพื่อนร่วมงานผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายเป็นคนนิสัยดี มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือ จนเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน หากเพื่อนร่วมงานมีเรื่องเดือดร้อนก็จะให้คำปรึกษาและช่วยเหลือ แม้แต่เรื่องเงิน ซึ่งผู้ตายจะช่วยเหลือยืมนำเงินในระบบมาให้ หรือเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้นอกระบบ แต่คนที่ช่วยเหลือกลับหนีไม่ชดใช้หนี้ โกงผู้ตาย ทำให้ผู้ตายต้องแบกภาระหนี้สินประมาณ 1 แสนกว่าบาท ซึ่งผู้ตายเคยบ่นจะฆ่าตัวตายหลายครั้งแล้ว ตนก็ได้พูดปลอบใจว่าให้สู้ไปด้วยกัน อย่าคิดสั้น ซึ่งผู้ตายก็รับปากว่าจะไม่คิดสั้นอีก แต่วันนี้ผู้ตายก็ตัดสินใจผูกคอตายหนีปัญหา
ตำรวจสันนิษฐาน ผู้ตายเครียดเรื่องหนี้สิน ที่ไปช่วยค้ำประกันให้คนอื่น แต่ถูกโกง จึงต้องแบกรับหนี้สินคนเดียว จึงตัดสินใจผูกคอตายหนีปัญหา จึงนำศพไปไว้ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด และรอญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป
