เมื่อเวลา21.30น.วันที่ 24 กันยายน 2564 ร.ต.อ.ทิฐินันท์ ศรีเชียงหวาง รอง สว. สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ ผัวยิงเมียตาย แล้วยิงตัวตายตาม ที่บ้านเลขที่ 177/40 หมู่บ้านจัดสรร ต.นาดี จึงได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ,พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี, ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ,แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม
ในที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านเดี่ยวปูนชั้นเดียว มีรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กว 3055 อุดรธานี จอดขวางประตูรั้วหน้าบ้าน ที่ท้ายรถพบศพนายมนตรี มากสวัสดิ์ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 939/147 ซอยเพิ่มสิน 16 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขมับซ้ายทะลุขมับขวา นอนตะแคงจมกองเลือดอยู่บริเวณประตูรั้วหน้าบ้าน สภาพศพสวมเสื้อยืดสีขาวฟ้า กางเกงขาสั้นสีเทา พบอาวุธปืนสั้นขนาด .38 มม. แบบลูกโม่ง ตกที่ปลายเท้า นอกจากนี้ยังพบซองปืน แว่นตา และโทรศัพท์วางอยู่ระหว่างขา ห่างไปประมาณ 10 เมตร ภายในโรงรถพบศพ น.ส.ภัทรภร ตันประเสริฐ อายุ 46 ปี ถูกยิงด้วยขมับขวา กระสุนฝังใน นอนหงายจมกองเลือด สภาพสวมชุดนอนกระโปรงลาย โดยมีนางทัศนีย์ บุญยิ่ง อายุ 72 ปี แม่ น.ส.ภัทรภร นั่งร้องไห้เฝ้าศพลูก
นางทัศนีย์ ให้การทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายทั้งสองเป็นลูกสาวกับลูกเขย ทำธุรกิจเครื่องกรองน้ำ ก่อนหน้านี้ทั้งสองมีปากเสียงทะเลาะกัน ทำให้ทั้งสองแยกกันอยู่ และมักจะมาขู่ฆ่าลูกสาวตลอด เพื่อนบ้านใกล้เคียงจะเห็นประจำ แต่เมื่อ 1-2 เดือน ก่อนทั้งสองได้กลับมาคืนดีพูดคุยกัน ลูกเขยจะมากินข้าวเย็นที่บ้านประจำ แต่ไม่ได้นอนที่บ้าน ก่อนเกิดเหตุ เย็นวันนี้ลูกเขยขับรถมากินข้าวเย็นที่บ้าน และนั่งคุยกันปกติ เมื่อกินเสร็จตนก็เข้าห้องนอน ต่อมาก็แต่ได้ยินลูกสาวบอกสามีว่า 3 ทุ่มแล้วนะ จากนั้นก็ได้ยินเสียงปิดประตูรถยนต์ และเสียงปืน ตนออกมาดูก็พบว่าลูกสาวถูกยิงฟุบที่โรงรถ แล้ว โดยถูกลูกเขยเอาปืนยิง แล้วลูกเขยก็ยิงตัวตายอยู่หน้าประตูรั้ว
ส่วนนายมนพัฒน์ มากสวัสดิ์ อายุ 24 ปี ลูกชายนายมนตรี บอกว่า พ่อกับแม่เลี้ยง ทำธุรกิจเครื่องกรองน้ำ ที่ จ.ขอนแก่น มาด้วยกันหลายปีแล้ว แต่พอย้ายมาที่ จ.อุดรธานี ก็มาเปิดร้านขายเครื่องกรองน้ำด้วยกัน มาระยะหลัง แม่เลี้ยงต้องการแยกตัวออกไปทำธุรกิจเอง ซื้อเครื่องกรองน้ำมาขายเอง ไม่ต้องมีร้าน ทำให้พ่อไม่เข้าใจและไม่พอใจ เพราะพ่อกับแม่ทำธุรกิจสู้ด้วยกันมานานกว่า 20 ปี จนทำให้มีปากเสียงทะเลาะกัน หลังจากนั้นพ่อกับแม่ก็แยกกันอยู่ โดยพ่อแยกไปนอนที่ร้าน ตนไปนอนที่คอนโด ส่วนแม่ก็อยู่กับยายที่บ้านหลังนี้ พ่อกับแม่ไม่ถึงกับเลิกหรือแยกทางกัน เพียงแต่แยกกันอยู่ ซึ่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 เดือน พ่อกับแม่ก็พุดคุยและคืนดีกัน ซึ่งเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน พ่อแม่ก็พาตนและยายยังไปกินข้าวด้วยกัน และเย็นวันนี้พ่อก็มากินข้าวกับแม่ตามปกติ ไม่มีท่าทีว่าจะเกิดเหตุร้าย
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนญาติยังไม่พบประเด็นเรื่องชู้สาว แต่ทั้งสองจะระหองระแหงเรื่องธุรกิจเครื่องกรองน้ำ เพราะฝ่ายหญิงต้องการแยกตัวมาทำธุรกิจเอง โดยซื้อเครื่องกรองน้ำเป็นตัวมาขายเอง แต่ฝ่ายชายไม่เห็นด้วย จนทำให้ทั้งสองทะเลาะกัน และแยกกันอยู่ ซึ่งญาติทั้งสองฝ่ายก็รับรู้ข้อมูล เหตุเกิดต่อเนื่องมา 2 ปี กระทั่งมาเกิดเหตุวันนี้ซึ่งทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง ส่วนอาวุธปืนเป็นมรดกของฝ่ายชายซึ่งพ่อเป็นข้าราชการ ซึ่งจะได้สอบสวนปากคำญาติเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการต่อไป