ชัยภูมิ (ชมคลิป) ป่าไม้ชัยภูมิซ้อนแผนรวบแก๊งนักการเมืองท้องถิ่นพร้อมขบวนการมอดไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม


เจ้าหน้าที่ ป่าไม้ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวบแก๊งมอดไม้ลักลอบค้าไม้พยูงในเขตอุทยานแห่งชาติเตรียมขนส่งนายทุนใหญ่ พร้อมวางแผนจับกุม สท.ดังขณะนำเงินมาติดสินบนเจ้าหน้าที่ให้พ้นคดี
วันนี้ 7 ก.ย.64 นายสุรศักดิ์ พลพิลา จนท.หน่วยนปพ.เทพสถิตฯนายพิทักษ์ สิทธิศรี พนักงานพิทักษ์ป่า รต.อ.พีรพัฒน์ โชคบัณฑิต รอง สวป.นายอนุวัฒิ ชำนาญกิจ หัวหน้าอุทยานฯป่าหินงาม ได้รายงานจากสายว่าจะมีแก๊งค้าไม้พยุงข้ามชาติจะมาขนย้ายไม้พยุงออกจากป่าทางทิศใต้ของทุ้งดอกกระเจียวงาม ที่เป็นแห่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดชัยภูมิ ที่ตั้งอยู่ ในเขตอุทยานแห่งชาติป่าหิน ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จงชัยภูมิ มาพักไว้รอส่งให้กับนายทุนฯที่ภายในบริเวณบ้านเทพพนา หมู่ที่ 10 ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมรวมกันสนธิกำลังระหว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกคอรงและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้า รุดเข้าตรวจสอบปิดล้อมบริเวณบ้านเลขที่ดังกล่าวพบ รถเก๋ง ฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ทะเบียน กพ 1982 พระนครศรีอยุธยา จอดอยู่ และมี น.ส.วรวลัญซ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ชาวอำเภอบ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ กำลังนั่งเช็คจำนวนไม้ โดยมีท่อนไม้พยุงวางอยู่บนตาชั่ง ขนาด 60 ก.ก. วางอยู่ เตรียมที่จะใช้ชั่งไม้ดังกล่าว โดยมี นายสุทิน (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปีชาวอำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ กำลังขนไม้พยุงมาชั่งและขนใส่ท้ายรถ เจ้าหน้าที่จึงและตัวเข้าจับกุม พร้อมตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบท่อนไม้พยุงซุกซ่อนในป่าอีกจำนวนมาก สามารถตรวจยึดของกลางไม้พะยูงได้มากกว่า 62 ท่อน มีมูลค่าในตลาดส่งออกนับกว่าล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจยึดของกลางทั้งหมดเอาไว้ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบคือกระทำความผิด พรบ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา11ฐาน ทำไม้ หรือเจาะ หรือลับ หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และกระทำผิด ตามมารตา 69 ฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป(ไม้ท่อน)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากเจ้าหน้าที่

ซึ่งในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ กำลังดำเนินการจับกุม นั้น มี น.ส.วรวลัญซ์ ซึ่งเป็นผู้รับซื้อไม้จาก นายสุทิน ได้พยายาม พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอปิดคดี โดยจะให้เงินแก่เจ้าหน้าที่ขอไม่ให้ตนถูกจับและไม่ให้ยึดรถ โดยครั้งแรกจะให้เงินแก่จนท.จำนวน 50,000 บาท แต่งทางเจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนซ้อนพร้อมดึงเกมส์ ปิดที่ 80,000บาท เพื่อเคลียคดีดังกล่าว จากนั้น น.ส.วรวลัญซ์ จึงได้ ติดต่อหาพี่น้อง ชื่อเสก ให้นำเงินมาให้เจ้าหน้าที่ ที่บริเวณปั้ม นำมัน ปตท.เทพสถิต โดย น.ส.วรวลัญซ์ ได้นำเงินสด จำนวน 18,900บาท จึงได้ถ่ายเอกสารไว้เป็นหลักฐาน พร้อมให้ น.ส.วรวลัญซ์ พาเจ้าหน้าที่ ไปซุ่มรอ ที่จุดนัดหมาย

เมื่อถึงเวลานัด พบรถเก๋งยี้ห้อฮอนด้าซิติ สีน้ำบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน กจ 6764 ชัยภูมิ ขับเข้ามา น.ส.วรวลัญซ์ บอกเจ้าหน้าที่ว่าใช่รถ พี่ตน เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณ ให้ชุดที่ซุ่มอยู่ใกล้ๆเข้าไปเปิดประตูรถ โดย น.ส.ไก่ (นามสมมติ) เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ โดยมี นายเสก พี่ชายของ น.ส.วรวลัญซ์ นั่งมาในรถด้วย จากนั้น น.ส.ไก่ จึงได้ส่งมอบเงินให้กับเจ้าหน้าที่ จำนวน 40,000 บาท โดยอีก 20,000บาท ขอโอนให้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม น.ส.ไก่ จึงได้ลงจากรถไปกดที่ตู้เอทีเอ็มมาให้เจ้าหน้าที่อีก 20,000บาทแต่เงินในบัญชีไม่พอได้จึงกดมาได้เพียง 9,500 บาทส่วนที่เหลืออยู่ในสมุดบัญชี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้ากับกุมพร้อมยึดรถคันดังกล่าวเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกัน นายฌาณุเดช (สงวนนามสกุล)อายุ 43 ปี หรือ เสก พี่ชายของ น.ส.วรวลัญซ์ เห็นท่าไม่ดีจึงได้แอบเปิดประตูรถหลบหนีไปได้

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวและยึดรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ชิตี้ สีบอร์นเงิน ติดแผ่นป้ายทะเบียนหน้า ทะเบียน กจ 6764 ชัยภูมิ 1 คันและเงินสดของกลางรวมทั้งสิน 68,400 บาท ไว้จึงได้นำตัวส่งให้ พ.ต.ท.วุฒิชัย เยิมสูงเนิน ร้อยเวรสอบสวน สภ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันให้สินบนเจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ หรือไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิซอบด้วยหน้าที่พร้อมส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

วิรัตน์ ดวงแก้ว จ.ชัยภูมิ