ถนนสี่ช่องจราจร อำเภอคำชะอี จ.มุกดาหาร – นาไคร้ อำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เปิดให้รถทุกชนิดวิ่งได้แล้ว หลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้การเดินทางสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจากมุกดาหาร – ขอนแก่น ย่นระยะทางได้ประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางลดลง จากเดิมใช้เวลา 3.30 ชั่วโมง เหลือประมาณ 2.30 ชั่วโมง
วันนี้ ( 27 ก.ค.64) แขวงทางหลวง มุกดาหาร ได้เปิดให้รถทุกชนิดสามารถใช้เส้นทาง 4 ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข 12 บ้านนาไคร้ – อำเภอคำชะอี ช่วงระหว่างอำเภอหนองสูง – อำเภอคำชะอีได้แล้ว หลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จและล่าช้ากว่าแผนงานโครงการที่กำหนดกว่า 1 ปี
โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 12 สาย บ.นาไคร้ อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ – อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม ขนส่งตามแนวตะวันออก – ตะวันตกกับประเทศเพื่อนบ้านระหว่าง สหภาพเมียนมาร์–ไทย–สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว-ประเทศเวียดนาม (East West Corridor) ระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร งบประมาณในการก่อสร้าง ประมาณ 3,600 ล้านบาทเศษ ทางหลวงสายนี้อยู่ในเขตพื้นที่ บ้านนาไคร้ อำเภอกุฉินารายณุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ – อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร ช่วงระหว่าง กม. 704+400 – 721+000 ระยะทางยาวประมาณ 16.600 กิโลเมตร งบประมาณในการก่อสร้างตามสัญญา : 1,196,294,000 บาท เริ่มต้นสัญญาวันที่ 11 มีนาคม 2560 สิ้นสุดสัญญาวันที 26 ธันวาคม 2562 รวมระยะเวลาดำเนินการ 960 วัน และอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ช่วงระหว่าง กม. 721+000 – กม.740+708 อำเภอหนองสูง- คำชะอี ระยะทางยาว 19.708 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้างตามสัญญา 1,196,376,000 บาท เริ่มต้นสัญญา วันที่ 8 มีนาคม 2560 สิ้นสุดสุดสัญญาวันที่ 23 ธันวาคม 2562 รวมระยะเวลาดำเนินการ 960 วัน และขยายเวลาออกไปอีก 422 วัน รวมเวลาดำเนินการ 1,382 วัน
เนื่องจากอยู่ระหว่างการจ่ายค่าชดเชยกรรมสิทธิ์ที่ดิน ให้เรียบร้อยตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นถนนตัดใหม่ ก่อนเข้าดำเนินการ และปัญหาการฟ้องร้อง กรณีบริษัทผู้รับเหมาได้ดำเนินการก่อสร้างถนนตัดผ่านเขตพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูสีฐาน ในเขตพื้นที่ บ้านคำพอก ตำบลโนนยาง อำเภอหนองสูง ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร เนื้อที่ประมาณ 29 ไร่ 0 งาน 18 ตารางวา ก่อนได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ รวมไปถึงการนำต้นไม้ที่ตัดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และนำหินแร่ในพื้นที่โครงการก่อสร้างถนน ไปใช้นอกพื้นที่โครงการ ทำให้รัฐเกิดความเสียหาย ซึ่งต่อมากรมป่าไม้ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ก่อสร้างถนนจนกว่าแล้วเสร็จ โดยไม่ต้องรอผลคดีถึงที่สิ้นสุด ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้า ประเทศและประชาชนเสียผลประโยชน์ และได้รับความเดือดร้อน ส่วนความผิดให้เป็นไปตามกระบวนของกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ถนนสายดังกล่าว เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้การขนส่ง การสัญจร บนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ ตะวันออก สู่ตะวันตก จากเวียดนาม สปป.ลาว ผ่านจังหวัดมุกดาหาร – กาฬสินธุ์ – ขอนแก่น – เพชรบูรณ์ – พิษณุโลก – สุโขทัย – ตาก แม่สอด และประเทศเมียนมา ย่นระยะทาง การเดินทางสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจากจังหวัดมุกดาหาร – ขอนแก่น จากเดิมใช้เวลาประมาณ 3.30 ชั่วโมง ก็จะย่นระยะทางได้ประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง
อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร
#อีสานเดลี่ออนไลน์