จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวเสาไฟฟ้าประติมากรรมของ อบต.ราชาเทวะ มีราคาสูง แพงผิดปกติ ทำให้ส้งคมรับรู้รับทราบและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ว่ามีมีราคาเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ทางณะกรรมการผู้ตรวจสอบคือ ปปช.และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ก็ได้มีนโยบายให้หน่วยงานในส่วนภูมิภาคและจังหวัดได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่แต่ละจังหวัดว่า มีอปท.ใดบ้างที่มีที่มีเสาไฟลักษณะประตืที่มีราคาสูง มีความไม่เหมาะสม ให้ไปรวบรวมตรวจสอบ ทาง ปปช.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ชมรมโค้ช strong จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดร้อยเอ็ด ได้นำคณะเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2554 หลังจากมีประชาชนถ่ายภาพเสาไฟประติมากรรมรูปทรงโหวด สูง 20 เมตร จำนวน 3 ต้น บริเวณถนนสายร้อยเอ็ด – กาฬสินธุ์ เป็นข่าวว่าราคาสูง
นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด กล่าวว่า ข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว การออกมาตรวจสอบของคณะ ปปช. เพื่อให้ทางเทศบาลได้นำเสนอ ให้ข้อมูล ให้รายละเอียด เอกสารหลักฐาน การประมาณราคากลาง การเสนอสัญญาจ้างต่างๆ ว่ามีการดำเนินการถูกต้องตามระเบียบราชการหรือไม่ เพื่อรวบรวมไปตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ที่เป็นข่าวโด่งดัง ทำให้ผู้บริหารเทศบาล และสมาชิกสภาเทศบาล ตลอดจนพนักงานเทศบาลรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกว่าเราตกเป็นจำเลยของสังคมทันที เมื่อมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อออนไลน์ของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม2564 พาดหัวข่าวว่า ปปช.ชี้มูล 3 เสาไฟประติมากรรมจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งประโยคนี้เมื่อเผยแพร่ออกไปแล้ว ประกอบกับมีถ้อยคำว่าแพงเกินจริง ก็ทำให้ข่าวนี้เป็นที่สนใจ เกิดกระแสวืพากวิจารณ์อย่างมากมาย ซึ่งตรงนี้อยากจะเรียนข้อเท็จจริงว่า เมื่อเสนอข่าวว่า ปปช.ชี้มูล ภาษากฏหมายก็คือเทศบาลเมืองรอยเอ็ดหรือผู้เกี่ยวข้อง ได้มีความผิดเกิดขึ้นแล้ว จะต้องส่งฟ้อง หรือถ้า ปปช.ชี้มูลตัวผู้บรืหาร นายกเทศมนตรีต้องถูกสั่งพักงานทันที ต้องหยุดทำหน้าที่ ซึ่งตรงนี้ทำให้กระแสรับทราบว่าผู้บริหาร ตลอดจนสภาและสมาชิกสภาฯ ข้าราชการ พนักงานเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดร่วมกันทุจริตทำให้เกิดความสูญเสียว่า เสาไฟดังกล่าวแพงเกินจริง แต่ละต้นมีราคาเกือบล้านบาท
อยากกราบเรียนขอความเป็นธรรมว่า เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดมีความตั้งใจที่จะพัฒนาเมือง พัฒนาท้องถิ่น โดยยึดหลักกฎหมาย และเป็นไปโดยความถูกต้องชอบธรรมไม่มีอะไรที่เราจะต้องทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ และพี่น้องประชาชน เพราะบ้านเมืองนี้เป็นบ้านเกิดเมืองนอนเราที่เราจะต้องพากันพัฒนาให้เจริญรุ่งเรือง ก็ขอเรียกร้องว่าการที่พาดหัวข่าวว่า ปปช.ชี้มูล 3 เสาไฟประติมากรรมรูปทรงโหวดแพงเกินจริง ทำให้ตนเองได้รับความโกรธแค้น เกลียดชังจากผู้คน ทำให้ผู้คนมองเทศบาลในทางที่ไม่ดี เกิดความรู้สึกถูกเหยียดหยามย่ำยี ซึ่งคณะที่มาตรวจสอบ มาขอทราบข้อมูลเท่านั้น ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา หรือตั้งกรรมการสอบข้อมูลเพื่อให้ตนชี้แจงเลย ถ้าหากมีข้อมูลการทุจริตจึงจะมีการแจ้ง ปปช.สวนกลางพิจารณา
จึงอยากออกมาปกป้องการเสนอข่าวออกมาเช่นนี้มันไม่ชอบ มันเป็นเรื่องที่ขาดจริยธรรมที่ถูกต้องเหมาะสมต่อสังคม ผู้คนในวงกว้างวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆมากมาย เกิดความเสื่อมเสีย จึงเรียนขอโอกาส ซึ่งทางเทศบาลเราจะต้องทวงคืนศักดิ์ศรี และจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ข้อเท็จจริงตัวเสาไฟสูง 20 เมตรที่ตกเป็นข่าวราคากลางทั่วไปของกรมทางหลวง กรมโยธาธิการและผังเมืองก็ดีหรือหน่วยงานราชการอื่น เฉลี่ยราคาต้นละประมาณสูงเฉลี่ย 695,000 บาท ซึ่งขณะนี้เราก็มีเอกสารไปติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ขอราคากลางว่า แต่ละหน่วยงานตั้งราคากลางเสาสูงขนาด 20 เมตร มีโคมไฟส่องสว่างขนาด 400 วัตต์ จำนวน 8 ดวง ราคาต้นละเท่าไหร่ ซึ่งก็อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 695,000 บาท แต่ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดพิเศษกว่าที่อื่นและมีราคารวม 861,000 บาท ตามที่เป็นข่าว แต่ถ้าเทียบแล้วถ้าเอาราคากลางทั่วไป หกแสนเศษของเราจะถูกกว่าหรือราคาต่ำกว่าด้วย ต้นนึงราคาประมาณ 861,000 บาท นี้ประกอบไปด้วยด้วยราคากลางที่เป็นมาตรฐานคือหกแสนกว่าของเราอยู่ที่ 650,000 บาทแล้วบวกด้วยราคาที่ตกแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับภูมิทัศน์ และนำเสนอเมืองร้อยเอ็ด ให้เป็นเมืองแห่งโหวด โดยใช้รูปโหลดเข้ามาโอบเสาไฟ ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.80 เมตร สูง 11 เมตร มีลูกโหวด 11 รอน ซึ่งตรงนี้การที่เรานำมาประกอบกันกับเสาไฟราคาต้นละ 140,000 บาท นอกจากนั้นยังมีการซื้อคอมโพสิต สีเทา ความหนา 4 มม. มาหุ้มฐานเสาไฟไม่ให้เห็นโครงสร้างด้านใน ให้มีความสวยงามทนทาน ราคาต้นละ 75,000 บาท ถ้าเอา 2 ส่วนที่เป็นยอด 2 อย่างนี้ก็รวมกันก็จะเป็นเงิน 215,000 บาท ถ้าเอา 215,000 บาทไปลบจากยอด 861,000 บาท ราคาก็จะลดลงเหลือประมาณต้นละ 650,000 บาท ซึ่งตรงนี้เราก็ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง และเป็นธรรมตามมาตรฐาน เป็นไปตามระเบียบทุกประการ และโครงการนี้ไม่ได้ทำเฉพาะเสาไฟอย่างเดียว สัญญาจ้างของโครงการนี้ราคากลางอยู่ที่ 4,200,000 บาท แต่ใช้งบประมาณเพียง 4,100,000 บาท ผู้ประกอบการหรือผู้รับจ้างจำนวน 3 ราย ได้มีการประมูลการจัดซื้อจัดจ้าง โดยวิธีประกวดราคา E-Biding ผู้ได้ราคาต่ำสุด ที่มีการฟันราคากันลงไปเหลือ 3,700,000 บาท ทำให้ประหยัดงบประมาณไป 400,000 บาท และในสัญญาจ้างนี้มี 3 รายการ ประกอบด้วย
1. รื้อเกาะบนถนนขนาดเล็กซึ่งเป็นเกาะเก่าทั้งด้านทิศตะวันออก-ทิศตะวันตกของถนนระยะทาง 200 เมตร และย้ายเสาไฟกิ่งออกไป แล้วซ่อมผิวจราจรปูยางถนนทั้ง 2 ฝั่งกว้างประมาณ 40 เมตร
2 .ปรับปรุงสะพานเดิม หรือสะพานไหมไทยซึ่งชาวร้อยเอ็ดรู้จักกันดี ปรับปรุงผิวสะพานทางเดินให้เกิดความสวยงามและติดตั้งเสาไฟขนาดกลางจำนวน 10 ต้น บนสะพานฝั่งละ 5 ต้น
3. เสาไฟประติมากรรมจำนวน 3 ต้นดังที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดนี้ราคารวม 3 รายการ รวมเป็นเงิน 3,700,000 บาทไม่ใช่ ราคารวม 258,569,322 บาทตามที่มีการเผยแพร่ทางสื่อแต่อย่างใด
ก็อยากจะขอเรียนทำความเข้าใจว่า ถ้าจะพูดว่าแพงหรือใช้ความรู้สึกเข้ามาจับ อันนี้ก็สามารถรู้สึกได้แต่ขอเรียนและขอความเป็นธรรมว่า ราคานี้เป็นไปตามมาตรฐานราคากลางเป็นไปตามระเบียบของทางราชการทุกประการ จึงอยากจะขอให้ความเป็นธรรมกับผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล ข้าราชการ และพนักงานเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชนและประชาชนที่รับทราบข่าวสารต่างๆก็ขอให้โอกาส และรอพิสูจน์กันว่าสิ่งที่ท่านคาดหวังและการดำเนินการของ ปปช.จะจบลงอย่างไร
สำหรับเสาไฟฟ้าสูง 20 เมตรครอบคลุมแสงสว่างได้ 50 เมตร เสาไฟตำนวน3ต้นสามารถให้แสงสว่างครอบคลุมพื้นที่ได้ประมาณ 200เมตร เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน มีความสวยงาม เกิดความคุ้มค่าใครที่จะผ่านไปมาบนเส้นทางดังกล่าวก็จะผ่านจุดนี้และเห็นสัญลักษณ์โหวตและหอสูงชมเมืองรูปทรงโหวด แลนด์มาร์คแห่งใหม่ใจกลางเมืองร้อยเอ็ด คือเจตนารมณ์ของเทศบาลที่จะพัฒนาให้เกิดความคุ้มค่า พัฒนาภูมิทัศน์เข้ามาเมืองร้อยเอ็ด ส่งเสริมจังหวัดร้อยเอ็ดให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว จึงขอโอกาส ให้ความเป็นธรรมกับทางท้องถิ่นที่มีความตั้งใจที่จะพัฒนาบ้านเมือง หากข่าวสารต่างๆ ที่จะมีการรับรู้ มีความรู้สึกอย่างไรผมรับทราบได้ รับรู้รับในเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้ เป็นเรื่องธรรมดาเพราะเราเป็นบุคคลสาธารณะ แต่ข้อเท็จจริงข้อมูลด้านการนำเสนอข่าวขอให้ครบถ้วน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตนเองเชื่อว่าสังคมอย่างนี้มันจะสร้างสรรค์และทำให้ประเทศชาติเราเจริญยิ่งๆขึ้นไป แต่ถ้ามองมุมเดียวขาดข้อมูลข่าวสารที่แท้จริง มองภาพลบด้านเดียวจะทำให้คนที่เขามีความตั้งใจทำงานท้อแท้ ทำให้ไม่สามารถที่จะพัฒนาบ้านเมือง พัฒนาท้องถิ่นของตนเองต่อไปได้
พันเอก ดร.สิน สีโสม ประธานชมรมโค้ช strong จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่าชมรม strong จิตพอเพียงต้านทุจริต ซึ่งมีโ๊ค๊ชและคณะทำงานจำนวน 16 คน ทำหน้าที่ด้านการรณรงค์ สร้างจิตสำนึกเพื่อป้องกันการทุจริตแก่สังคม ร่วมกับ ปปช.ประจำจังหวีด ที่ผ่านมาได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปช.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ตรวจสอบความถูกต้องเกี่ยวกับการใช้งบประมาณของส่วนราชการ และองค์กรปกครองท้องถิ่นในแต่ละเดือนอย่างตามสถานการณ์ ที่ผ่านมามีการลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องโครงอาหารกลางวันในโรงเรียน และล่าสุดหลังมีกระแสข่าวเสาไฟประติมากรรม ของ อบต.ราชาเทวะ เป็นที่สนใจของประชาชน ทำให้ ปปช.แห่งชาติ มีคำสั่งให้สำนักงาน ปปช.ในแต่ละจังหวัด ประสานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกตรวจสอบเสาไฟประติมากรรมในพื้นที่ว่า ที่ไหนมีเสาไฟฟ้าที่มีลักษณะเดียวกัน หรือคล้ายกันบ้าง มีการดำเนินการเป็นอย่างไร การได้มาของงบประมาณ ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ซึ่งเราได้ร่วมกัน 3 ฝ่าย ออกตรวจสอบ โครงการเสาไฟประติมากรรม จำนวน 3 ต้น ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่และผู้บริหารเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดได้มีการนำเอกสารต่างๆมาชี้แจง ตอบข้อซักถาม และให้ความร่วมมือกับคณะที่เดินทางไปตรวจสอบเป็นอย่างดี เราไม่ได้ไปจับผิดเขาแต่เราไปตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อนำเรียน ปปช.จังหวัดรับทราบเท่านั้น
ส่วนที่ข่าวพาดหัวว่า ปปช.ชี้มูลเสาไฟประติมากรรมของเทศบาลเมืองร้อยเอ้ด จำนวน 3 ต้น อันนี้เราไม่ทราบว่าเขาเอาข้อมูลมาจากไหน พวกเราระลึกอยู่เสมอว่าก่อนจะไปชี้มูลได้จะต้องมีการตั้งกรรมการมาไต่สวน แต่ที่ออกข่าวว่า ปปช.ชี้มูล เราเห็นเราก็ตกใจ และก็ได้ถามคณะทำงานว่ามีใครให้ข้อมูลแบบนั้นไปหรือไม่ ทุกคนก็ตอบว่าไม่มีใครให้ข้อมูลในลักษณะนี้กับสื่อแต่อย่างใด ยังไม่ได้มีการชี้มูล เราตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้วการจะชี้ข้อมูลมันมีขั้นตอน ต้องผ่านคณะกรรมการไต่สวน ซึ่งแต่งตั้งโดย ปปช.ในการไต่สวนเจ้าหน้าที่ หรือผู้บริหารหน่วยงานนั้นๆ แล้วนำมาวิเคราะห์ว่า สิ่งที่ไต่สวนนั้นจะเป็นเหตุให้ ปปช.ดำเนินการในขั้นต่อไปหรือไม่อย่างไร
วินัย วงศ์วีระขันธ์ ข่าว