สุนัขจรจัดภายในสวนสาธารณะกลางเมืองขอนแก่น รุมขย้ำเด็กชายวัย 6 ขวบ ที่ผู้ปกครองพาไปเล่นออกกำลังกาย ได้รับบาดเจ็บถูกกัดบริเวณต้นขาและแก้มก้น รวมกว่า 10 แผล โชคดีที่พลเมืองดีช่วยเหลือได้ทัน ด้านผู้ปกครองฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ พร้อมวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางป้องกัน
วันที่ 23 พ.ค. 64 นางสาวพิมพ์พร พินิจงาม อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น เปิดร่องรอยบาดแผลบริเวณขาข้างซ้ายของเด็กชายกิตติเดช จิตพรมมา หรือ น้องต้นตาล ลูกชายวัย 6 ขวบ ที่ถูกกลุ่มสุนัขจรจัดประมาณ 4 ตัว รุมกัดขณะที่กำลังเล่นสเก็ตบอร์ดกับเพื่อนๆ ภายในสวนสาธารณะรัชดานุสรณ์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยในระหว่างที่น้องต้นตาลกำลังเล่นอยู่ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนๆ และเยาวชนที่มาออกกำลังกายอยู่นั้น ได้ถูกสุนัขจรจัดวิ่งเข้ามารุมกัด จนได้รับบาดเจ็บ มีแผลถูกกัดเข้าที่บริเวณขาข้างซ้าย ตั้งแต่บริเวณน่อง สะโพก และก้น รวมกว่า 10 แผล ซึ่งโชคดีที่ในระหว่างเกิดเหตุ มีเยาวชนที่เล่นสเก็ตบอร์ดอยู่ใกล้ๆ ช่วยกันไล่สุนัขและช่วยน้องต้นตาลไว้ ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นสาหัส โดยหลังเกิดเหตุคุณแม่ ได้พาน้องต้นตาลไปรักษาที่โรงพยาบาล พร้อมกับทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา
นางสาวพิมพ์พร เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนเองได้พาน้องต้นตาล และลูกชายคนเล็กอีก 1 คน ไปเล่นที่สวนสาธารณะรัชดานุสรณ์ หลังจากที่น้องต้นตาลปิดเทอมมานาน จึงอยากที่จะไปเล่นกับเพื่อนๆ ตนเองจึงพาลูกไป ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พาลูกไปที่นั้น เมื่อไปถึงก็ให้ลูกชายวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ตามปกติ ส่วนตนเองก็ดูแลลูกคนเล็กอยู่ใกล้กับจุดที่น้องต้นตาลวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ กระทั้งผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ได้ยินเสียงร้องดังขึ้น ก่อนที่ลูกชายของตนเองจะวิ่งร้องไห้เข้ามาหา และบอกว่าถูกสุนัขกัด ตนเองเห็นรอยบาดแผลก็ตกใจจึงรีบพาลูกไปโรงพยาบาลทันที เมื่อตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียดก็พบว่า ลูกชายมีแผลถูกกัดมากกว่า 10 แผล แต่โชคดีที่แผลไม่ลึกมาก หมอจึงได้ล้างแผลและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ ซึ่งตอนนี้อาการของน้องต้นตาลก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่ก็ยังต้องไปพบหมดเพื่อล้างแผลทุกวัน หลังเกิดเหตุตนเองได้นำเรื่องนี้โพสต์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก เพื่อเตือนภัยและเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ปกครองคนอื่นๆ รวมทั้งวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เพราะสวนสาธารณะควรจะเป็นที่พักผ่อนที่ปลอดภัย อีกทั้งสวนสาธารณะฯ แห่งนี้ก็อยู่ใกล้กับโรงเรียน ซึ่งในช่วงเปิดภาคเรียนจะมีนักเรียนมายืนรอผู้ปกครองมารับ หากไม่รีบจัดการกับสุนัขจรจัด ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกได้ และอาจจะรุนแรงกว่านี้ ซึ่งตนคิดว่าไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใคร เพราะคนเป็นพ่อเป็นแม่เห็นลูกเจ็บก็เจ็บมากกว่า จึงวิงวอนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งหาทางป้องกันอย่างเร่งด่วน
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ติดตามหากลุ่มสุนัขที่คาดว่าจะยังคงวนเวียนอยู่ภายในบริเวณสวนสาธารณะฯ แต่ก็ยังไม่พบตัว แต่เชื่อว่าสุนัขกลุ่มนี้จะยังคงวนเวียนอยู่พื้นที่รอบๆ ซึ่งมีทั้งสถานีขนส่งผู้โดยสารเก่า และศูนย์ราชการ