วันที่16 พฤาภาคม 2564 เวลา 16.00 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขจังหวัดเลย รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดเลย ห้องประชุมภูเรือ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเลย นายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชกรจังหวัดเลย นายอภิชาติ สะบู่แก้ว ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย ร่วมกันแถลงข่าว
จังหวัดเลยพบผู้ป่วย covid-19 ระลอกเมษายน 2564 เพิ่มขึ้น 3 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 83 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต ยังรักษาตัวอยู่ 20 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ต้องติดตามผลทั้งหมด 134 ราย
สำหรับ รายที่ 81 ชายไทย อายุ 51 ปี อาชีพรับจ้าง เป็นบิดาของรายที่ 79 อยู่ที่ บ้านหนองผำ ต.นาดินดำ อ.เมือง พบมีประวัติเสี่ยง ทำงานในแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่บริษัท อิตาเลียนไทย กรุงเทพมหานคร และอาศัยอยู่กับผู้ป่วยยืนยันหลายรายซึ่งเป็นคนในครอบครัว และมีการตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19จำนวนมาก อาการทั่วไป คือ ไอแห้ง ขณะนี้รักษาตัวที่ รพ.เลย มีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 1 ราย
รายที่ 82 หญิงไทย อายุ 50 อาชีพแม่บ้าน ภรรยารายที่ 81 มารดารายที่ 79 ประวัติเสี่ยงอยู่ในสถานที่ระบาดโควิด-19 ที่กรุงเทพมหานคร และอยู่ครอบครัวที่มีผู้ป่วยยืนยันหลายราย ไม่มีอาการ รักษาตัวอยู่ที่รพ เลย เสี่ยงสูง 1 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 3 ราย
รายที่ 83 ชาย อายุ 2 ปี 10 เดือน เป็นบุตรชายผู้ป่วยรายที่ 79 ล่าสุดไม่มีอาการ รักษาตัวที่ รพ.เลย
นายอภิชาติ สะบู่แก้ว ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุข กล่าวถึง กรณีที่อาจจะมีผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง อาทิ แคมป์คนงานก่อสร้างของบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ว่า ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ 5 ทหารเสือ ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ รวมถึงมีการตั้งด่านตรวจคนเข้าออก แต่ที่สำคัญคือการรายงานตัวเพื่อประเมินความเสี่ยง ผู้ที่เดินทางกลับมาจะต้องรายงานตัว ตามมาตรการของจังหวัดอย่างเคร่งครัด
ส่วนกรณีรายที่ 80 ที่เป็นชายชาวสปป.ลาว ที่ขึ้นรถโดยสารประจำทางของบริษัทแอร์เมืองเลยนั้น เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ติดตามเจอผู้โดยสารบนรถทั้ง 19 รายครบหมดแล้ว รวมถึงคนขับรถแท็กซี่เช่นกัน ขณะนี้อยู่ในกระบวนการนัดตรวจหาเชื้อ คาดว่าจะทราบผลเร็วๆนี้
ส่วนการฉีดวัคซีนในพื้นที่จังหวัดเลยนั้น ขณะนี้ ได้ฉีดให้บุคลากรทางการแพทย เจ้าหน้าที่ด่านหน้าไปแล้ว 5,123 ราย ซึ่งจะเป็นหลักประกันว่าคนที่ลงพื้นที่ไปดูและประชาชน มีภูมิต้านทานในระดับหนึ่ง และมั่นใจในการทำงาน แต่จะมั่นใจมากขึ้นหากประชาชน ได้ฉีดวัคซีนครบโดส ก็จะทำให้จังหวัดเลยผ่านพ้นไปได้
ด้านนายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า ขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดเลยขอให้รายงานตัว และเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อประเมินความเสี่ยง ซึ่งหากไม่รายงานตัวทางเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย นอกจากนี้ อยากให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการตรวจหาเชื้อเมื่อกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงแม้ไม่มีอาการเพื่อลดการแพร่เช้อ และเข้าสู่กระบวนการรักษาให้ไวที่สุด
นอกจากนี้ เรื่องการจองวัคซีน ขณะนี้มีประชาชนให้ความสนใจจองวัคซีนจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย คือกลู่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ซึ่มีการจองผ่านไลน์หมอพร้อมและทีม 5 ทหารเสือ กว่า 1,20000 คน คิดเป็น ร้อยละ 53.29 ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่เราต้องออกจากสถานการณ์โควิดเพราะส่งผลต่อชีวิตของเรามากว่า 2 ปี ซึ่งทางออกของปัญหาคือการฉีดวัคซีน ถ้าเราฉีดได้รอยละ 70 ของจำนวนประชากร ถือว่าสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ ทั้งนี้ หาใครต้องกราลงทะเบียนฉีดวัคซีน สามารถจองได้ผ่าน 5 ทหารเสือ รพ.สต หรือ อสม.ได้ทันที ส่วนหลังจากนี้มาตรการจะผ่อนปรนหรือไม่นั้น จะต้องมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะ
ดำรงค์ รักษ์จรรยาวงศ์/ จ.เลย