เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 มี.ค.2564 ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผศ.ดร.ธีรวัฒน์ เหล่านภากุล รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแกน พร้อมด้วย ดร.แพรพิลาศ ดุจจานุทัศน์ ประธานกรมการบริหาร บ. ไบโอเพนนินซูล่า จำกัด พร้อมด้วยทีมนักวิชาการ มข.และผู้บริหาร บ.ไบโอเพนนิซูล่า จำกัด ร่วมเปิดตัว ฮาชิอิ มีล บาร์ ( Hachii Meal Bar) ธัญพืชอัดแท่ง เติมเต็มพลังงานตอบโจทย์นักกีฬา ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อรองรับกลุ่มนักกีฬาที่ต้องการคุณประโยชน์พลังงานอย่างเร่งด่วน ที่ผลิตจากธัญพืช ผลงานวิจัยและบ่มเพาะธุรกิจจากคณะทำงานของอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มข. ท่ามกลางความสนใจจากนักวิชาการ คณาจารย์ นักศึกษา รวมไปถึงสื่อมวลชนเข้าร่วมชมผลงานทางวิชาการกันอย่างคับคั่ง
ดร.แพรพิลาศ ดุจจานุทัศน์ ประธานกรรมการบริหาร บ.ไบโอเพนนินซูล่า จำกัด กล่าวว่า ธัญพืชอัดแท่ง ที่เราตั้งชื่อทางการค้าว่า ฮาชิอิ มีลบาร์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเพื่อตอบโจทย์ในกลุ่มคนรักสุขภาพ ที่มุ่งเน้นเป้าหมายที่ใช้พลังงานเป็นเวลานาน โดยเฉพาะนักวิ่งเทรล,นักวิ่งมาราธอน,นักวิ่งอัลตร้า,นักกีฬาเรือพาย หรือแม้กระทั่งนักฟุตบอล ที่จำเป็นต้องการได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ดังนั้นฮาชิอิ ที่เป็นผลงานวิจัยและพัฒนาพลิตภัณฑ์จึงนำวัตถุดิบที่ดีที่สุดที่ตอบโจทย์ในกลุ่มดังกล่าว ในการใช้อินทผลัม,อัลมอนด์,เม็ดมะม่วงหิมพานต์,โปรตีนจากถั่ว ข้าวโอ๊ต ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้พลังงานและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ มีคุณสมบัติโดดเด่นและเหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคที่เน้นการรับประทานผัก ผลไม้ และธัญพืช โดยผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด ที่สำคัญคือมีขนาดพกพาที่สะดวก กะทัดรัด และให้พลังงานมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ
“ ฮาชิอิ เป็นผลิตภัณฑ์ของคนไทย ที่สำคัญตัวใหม่ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าคือนักกีฬา ได้อย่างมาก โดยสัดส่วนของฮาชิอิ 1 แท่งนั้นจะมีน้ำหนัก 35 กรัม ให้พลังงาน 170 กิโลแคลลอรี่ ซึ่งเมื่อรับประทาน 1 แท่งจะให้พลังงานยาวนานถึง 2 ชม. จึงเหมาะอย่างยิ่งกับกลุ่มนักวิ่งที่สามารถรับประทานได้ในเวลาที่จำกัด และเป็นอาหารที่ให้พลังงานทดแทนได้ดี ซึ่งจากผลการทดสอบพบว่าธัญพืชอัดแท่งของเรานั้นรับประทาน 1 แท่งสามารถให้พลังงานที่วิ่งได้มากถึง 20-22 กม. เพราะมีส่วนผสมขงโปรตีนสูงถึง 6,000 มิลลิกรัม,วิตามิน B1และB2,แคลเซียม,ธาตุเหล็ก และใยอาหาร ที่วันนี้มีจำหน่ายแล้วในประเทศไทย ในรสชาติดั้งเดิมหรือออริจินอลที่รับประทานได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และให้พลังงานได้อย่างครบถ้วน”
ดร.แพรพิลาศ กล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบันแม้ฮาชิอิ จะมีจำหน่ายเฉพาะในกลุ่มรสชาติดั้งเดิมหรือแบบต้นตำหรับ แต่ขณะนี้ได้ประสานการทำงานร่วมกับ มข.ในการพัฒนารสชาติเพิ่มเติมคือรสกล้วย,รสโกโก้ และกลุ่มเบอรี่ โดยเน้นผลผลิตจากผลไม้ไทยเป็นหลัก รวมทั้งการวิจัยร่วมกับภาควิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา ในการทำผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทางอาหารและทางกีฬา เพื่อให้เป็นที่มั่นใจและเชื่อมั่นของกลุ่มนักกีฬาทุกชนิดกีฬา อย่างไรก็ตามด้วยการเป็นสินค้าไทย และใช้ผลลิตจากไทยเป็นหลัก มั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันกับตลาดการค้าภายในประเทศและต่างประเทศได้อย่างมาก ทั้งในด้านของหลักวิชาการและงานวิจัย ที่ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มข. บ่มเพาะและการสนับสนุน รวมไปถึงการวางแผนทางการตลาดที่มุ่งเป้าไปในกลุ่มต่างประเทศเพิ่มเติมจากประเทศไทย คือที่ฮ่องกง,สิงคโปร์และกลุ่มประเทศทางตะวันออกกลาง และที่สำคัญคือในเรื่องของต้นทุนที่เราสามารถแข่งขันในเรื่องของราคาควบคู่ไปกับมาตรฐานของผลิตภัณฑ์จะทำให้ธัญชพืชอัดแท่งของไทยจะแข่งขันกับกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารในกลุ่มดังกล่าวกับนานาประเทศได้อย่างมากอีกด้วย
