สุดรันทด เพลิงพิโรธไหม้บ้านกลางดึก ในชุมชนบ้านเอื้อง ชั่วโมงเดียวเสียหายวอดนับ 9 หลัง คาดบ้านต้นเพลิงไฟฟ้าลัดวงจร อยู่กลางชุมชน รถดับเพลิงเข้ายาก บวกกับส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้เก่าลุกลามเร็ว สุดเศร้า 9 ครอบครัว เหลือแค่เสื้อผ้าติดตัว ทรัพย์สินเสียหายวอด ป้าวัย 54 ปี หลั่งน้ำตา พึ่งขายสร้อยทอง ได้เงินมา 6 หมื่นบาท เตรียมลงทุนการเกษตร วอดไปกับกองเพลิง
เมื่อวันที่เวลา 23.30 น. วันที่ 23 มีนาคม 2564 พ.ต.ท.เพ็ชร กิจพฤกษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ศรีสงคราม จ.นคพรนม รับแจ้ง แหตุไฟไหม้บ้านในพื้นที่ ชุมชนบ้านเอื้อง หมู่ที่ 16 ต.บ้านเอื้อง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม จำนวนหลายหลัง จึงประสานเจ้าหน้าที่จากงานป้องกันและบรรเทาสาธารภัยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ ร่วม 10 คัน ระดมรถน้ำดับเพลิงเข้าควบคุมเหตุ โดยในที่เกิดเหตุ พบ เป็นชุมชนบ้านไม้สองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ สภาพติดกัน ไฟกำลังลุกไหม้ อย่างรวดเร็ว และลุกลาม รวมถึง 9 หลัง เนื่องจากสภาพบ้านไม้เก่า ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และเป็นชุมชนแออัด เป็นอุปสรรคในการนำรถดับเพลิงเข้าไปควบคุมเหตุ ใช้เวลานานนับ ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่สภาพบ้าน ถูกเพลิงลุกลามไหม้เสียหาย ทั้งหมด รวม 9 หลัง ส่วนใหญ่ ทรัพย์สินของมีค้า ยุ้งฉางข้าง ถูกไฟไหม้เสียหาย ทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบ เก็บหลักฐาน ประกอบการดำเนินคดี ตามกฎหมาย เบื้องต้นคาดว่ามาจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะได้สอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง ส่วนมูลค่าความเสียหาย ไม่ตำกว่า4 -5 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งดูแลช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่เบื้องต้น
เบื้องต้น จากการตรวจสอบ ของเจ้าหน้าที่และการสอบถามผู้พบเห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ยินเสียงดังคล้ายระบาด คาดว่าไฟฟ้าลัดวงจรดังขึ้นจากบ้าน ของนายจุด ไชยกา อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 16 บ้านเอื้อง ซึ่งอยู่กันสองคนกับภรรยา ต่างวิ่งหนีเอาตัวรอดหลัง เพลิงลุกไหม้ ชาวบ้าน จึง ช่วยกันพยายามหาทางดับไฟ แต่ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะเป็นบ้านไม้เก่า จึงลุกลามรวดเร็ว ก่อนประสานเจ้าหน้าที่นำรถดับเพลิงมาควบคุม แต่ไฟได้ลุกลามรวดเร็ว เสียหาย รวม 9 หลัง
ด้านนางบุญนา อินทริง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 16 บ้านเอื้อง หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขณะกำลังนอนหลับตนได้ยินเสียงเพื่อนบ้าน เรียกขอความช่วยเหลือ และช่วยกันดับไฟ หลังเพลิงลุกไหม้ จึงวิ่งออกมาดู พบไฟกำลังลุกไหม้บ้านอย่างรวดเร็ว แต่ไม่สามารถนำทรัพย์สินของมีค่าออกจากบ้านได้ เหลือเพียงเสื้อผ้าติดตัว ที่สำคัญ มีเงินสดอีกจำนวน 60,000 บาท ซึ่งได้มาจากการสะสมสร้อยคอทองคำ แต่พอช่วงราคาทองคำสูง จึงนำไปขาย เพื่อจะนำมาลงทุนทำการเกษตร สุดท้ายวอดไปกับกองเพลิง รวมถึงทรัพย์สินของมีค้าทั้งบ้าน ไม่มีเหลือ
ข่าว/ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุล นครพนม
