เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 23 มีนาคม 2564 พ.ต.อ.พัฒน์ศักดิ์ ยี่สารพัฒน์ ผกก.พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐพล แพนทาง รองผกก.(สส.) พ.ต.ท.อภินันทร์ รักศิลป์ รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.สามารถ พิมพ์ดี รองสว.สส.ร.ต.อ.ณัฐนนท์ รัตน์วงษ์ ร้อยเวร และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นำตัวนายนรินทร์ (ไทย) จันทรางกูล อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211 หมู่ 4 บ้านหนองแวง ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังถนนลำเลียงการเกษตรหน้าเถียงนาที่เกิดยิงนายประหยัด วงกันหา อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 246 หมู่ 17 บ้านหนองแวง ต.บัวเงิน ถึงแก่ความตายฟุบคารถจักยานยนต์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีประชาชนจำนวนร่วมยี่สิบคนเข้ามารอดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด โดยพนักงานสอบสวนได้ให้นายนรินทร์ หรือไทย ได้เข้าไปพูดคุยกับนายประหยัด ก่อนที่จะลงมือยิงโดยใช้ไม้ไผ่จำลองเป็นปืนแก๊ป จากนั้นได้นำไปชี้จุดซ่อนปืนภายในห้องเก็บของภายในเถียงนา โดยที่ปืนของกลางยังหาไม่พบ
นายไทย เล่าว่าสาเหตุที่ลงมือยิงนายประหยัดสืบเนื่องจากตนต้องการที่จะสอบถามว่ามีปัญหาอะไรไหมถึงได้ติดตามตัวเองตลอด และจะเคลียร์เรื่องเก่า ๆ ที่คั่งค้างคาใจกันมานาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนายประหยัดปล่อยน้ำที่ไหลเข้านาตนเองจนท่วมเมื่อช่วงหน้าฝนที่ผ่านมา หรอเป็นเรื่องเดิม ๆ เมื่อหลายปี เมื่อประสบโอกาสที่นายประหยัดผู้ตายเสร็จจากการไปรับจ้างดายหญ้า ได้ถือปืนเข้าไปดักขวางหน้ารถมอเตอร์ไซด์ จังหวะเดียวกันนั้นปืนแก๊ปได้ลั่นปลายกระบอกปืนหันไปหาผู้ตายพอดี ทำให้ผู้ตายเสียชีวิต
นายไทย ยังกล่าวสารภาพอีกว่า ก่อนที่จะก่อเหตุในช่วงเช้าได้เสพยาบ้าไปจำนวน 1 เม็ด ในช่วงเย็นได้ดื่มเหล้าขาวไปอีกขวดเล็ก หลังก่อเหตุตนได้เข้าไปยังหมู่บ้าน ได้แจ้งให้ลูกชายให้ออกมาเอาย่ามที่ใส่เอกสารของตนเองที่อยู่เถียงนา ส่วนปืนตนเองไม่ทราบว่าหายไปไหน เพราะหลังก่อเหตุแล้วได้นำมาเก็บไว้ในห้องเก็บของ
ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนได้คุมตัว นายธีระชัย (ท๊อป) จันทรางกูล อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของนายนรินทร์ มาสอบสวนถึงปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยนายท๊อป อ้างว่าไม่รู้เห็นกับปืนที่พ่อใช้ก่อเหตุ ยังบ่นให้พ่อว่าไม่น่าจะลากลูกเข้ามาเกี่ยวข้องเลย
ทางด้าน พ.ต.อ.พัฒน์ศักดิ์ ยี่สารพัฒน์ ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การสารภาพว่าเมื่อวานวันเกิดเหตุได้เสพยาบ้าไป 1 เม็ด พร้อมกับดื่มสุรา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได่หาสารเสพติดพบว่ามีผลเป็นบวก สำหรับเหตุจูงใจในการก่อเหตุเนื่องจากทั้งสองจะมีที่ทำกินติดกัน และมีเรื่องทะเลาะบาดหมางกันมาก่อนไม่ว่าจะเป็นการกั้นน้ำอีกฝ่ายไปท่วมที่นาของอีกฝ่าย พร้อมกับมีเรื่องหวาดระแวงว่าผู้ตายจะมาทำร้าย
สำหรับผู้ต้องหาอ้างว่าปืนลั่นนั้น เท่าที่ทราบว่าปืนกระบอกดังกล่าวเป็นปืนแก๊ป จะลั่นเองไม่ได้ถ้าไม่มีการง้างนกปืนไว้รอ อีกทั้งผู้ต้องหายังรับสารภพว่าขณะถือปืนนิ้วยังอยู่ในกรงไกรปืนอยู่ ถือได้ว่าเป็นการเตรียมการพร้อม ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา มีสารเสพติดในร่างกาย และเจตนาฆ่า นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนปืนของกลางที่ก่อเหตุขณะนี้ได้พยายามสอบถาม ค้นหาต่อไป