บรรยากาศงานเผาศพ “น้องปอนด์”นักเรียนชั้น ม.3 เข้าค่ายลูกเสือฐานหนีสงครามหลบระเบิดจมน้ำเสียชีวิตเป็นไปอย่างสุดเศร้า เพื่อนร่วมร้องเพลง“ฉันจะมีเธออยู่”ส่งดวงวิญาณหน้าเมรุ ด้านแม่ยังซึมพูดไม่ออกและติดใจครูที่ไม่ช่วยตามหาลูกชายและยังไม่พร้อมให้อภัย ส่วนคณะครูและผู้อำนวยการไม่ได้มาร่วมงานลดความขัดแย้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ห้วยเม็ก นำกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยในงานศพหลังญาติยังโกรธแค้นครู
จากกรณีนายทองนพเก้า สีทา หรือ “น้องปอนด์” อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนนาค้อวิทยาคม ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จมน้ำเสียชีวิตในหนองน้ำสาธารณะที่อยู่ติดกับโรงเรียน หลังจากร่วมกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ โดยทางญาติติดใจในสาเหตุการณ์เสียชีวิตและคาดว่าลูกชายจมน้ำขณะเข้าฐาน “หนีสงครามหลบระเบิด”ซึ่งเป็นการฝึกให้เด็กดำน้ำ ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น ซึ่งไม่มีอุปกรณ์ป้องกันช่วยเหลือ กระทั่งผอ.สพป.กาฬสินธุ์สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ขณะที่ครูผู้ดูแลและควบคุมฐานยืนยันไม่ได้บังคับเด็กลงน้ำและคาดว่าน่าจะจมน้ำหลังเสร็จกิจกรรม แต่แม่เชื่อว่าลูกชายจมน้ำขณะร่วมกิจกรรมลูกเสือ พร้อมยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 19 มีนาคม 2564 พ.ต.อ.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เดินทางเข้าร่วมงานศพและมอบเงินช่วยเหลือ พร้อมให้กำลังใจครอบครัวนายทองนพเก้า สีทา หรือ “น้องปอนด์” อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนนาค้อวิทยาคมที่จมน้ำเสียชีวิตหลังจากไปเข้าค่ายลูกเสือที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น ซึ่งญาติได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 280 หมู่ 11 ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์
โดยล่าสุดญาติและเพื่อนบ้านได้ช่วยกันเคลื่อนศพน้องปอนด์ไปทำพิธีฌาปนกิจที่วัดบ้านนาค้อ ท่ามกลางความโศกเศร้า โดยเฉพาะนางบัวรื่น สีทา อายุ 48 ปี แม่ของ“น้องปอนด์” ซึ่งยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้า ร้องไห้ และพูดอะไรไม่ออก ญาติๆต้องคอยปลอบใจและดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีชาวบ้าน และเพื่อนนักเรียน ร่วมงานจำนวนมาก โดยมีกำลังตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก และอป.พร.กว่า 50 นาย เข้ามาคอยอำนวยความสะดวกและรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อป้องกันเหตุวุ่นวาย หลังจากมีรายงานว่าญาติยังมีความโกรธแค้น และได้ตะโกนโห่ไล่คณะครูของโรงเรียนและผู้อำนวยการที่ไปร่วมงานสวดอภิธรรมศพเมื่อคืนที่ผ่านมา
โดยก่อนพิธีเผาศพมีบรรดาเพื่อนนักเรียน และเพื่อนในหมู่บ้านของน้องปอนด์นำกีต้าร์มาร่วมกันร้องเพลง “ฉันจะมีเธออยู่”บริเวณหน้าเมรุ เพื่อร่วมกันส่งดวงวิญาณน้องปอนด์ขึ้นสวรรค์เป็นครั้งสุดท้ายอีกด้วย หลายคนทั้งร้องเพลง ทั้งร้องไห้ไปด้วย ท่ามกลางความโคกเศร้าไปตามๆกัน ทั้งนี้มีนายสุรเชษฐ์ พละเอ็น ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 มาร่วมงาน และมอบเงินช่วยเหลือ ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูผู้ที่ควบคุมฐานเข้าค่ายลูกเสือ และคณะครูของโรงเรียนไม่ได้เดินทางมาร่วมงานฌาปณกิจในวันนี้ เนื่องจากต้องลดความขัดแย้ง เพราะยังมีญาติๆหลายคนที่มีความโกรธแค้น จึงหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า แต่ได้เข้าไปช่วยเหลือและร่วมงานสวดอภิธรรมศพก่อนหน้านี้แล้ว
อย่างไรก็ตามแม้นางบัวรื่น สีทา อายุ 48 ปี แม่ของ“น้องปอนด์”จะยังคงอยู่ในความโศกเศร้าและพูดอะไรไม่ออกเพราะสูญเสียลูก รวมทั้งยังไม่สามารถที่จะให้สัมภาษณ์ แต่ก็ยังยืนยันว่า วันนี้ได้มาส่งน้องปอนด์ขึ้นสวรรค์ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งการเสียชีวิตของลูกชายอย่างกะทันหันครั้งนี้เหมือนมีคนพรากเอาหัวใจของตนไป และยังทำใจไม่ได้ ซึ่งหากสาเหตุที่ลูกชายจมน้ำเสียชีวิตจะเป็นความประมาทของครูและโรงเรียนจริง จะต้องปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาความจริงให้ปรากฏ ซึ่งตนยังยืนยันว่าหากใครประมาทและมีความผิดก็ต้องได้รับโทษ ส่วนตนและญาตินั้นยังคงติดใจ โดยเพาะขณะที่ลูกชายของตน ซึ่งเป็นเด็กเรียนหายตัวไป ทางครูและผู้อำนวยการยังไม่สนใจที่จะออกตามหาและยังด่ากลับมาอีกด้วย
ขณะที่ความคืบหน้าในเรื่องของคดี พ.ต.อ.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก เปิดเผยว่า หลังจากเสร็จงานศพ นายทองนพเก้าแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะเรียกเชิญครู และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำในวันพรุ่งนี้ 20 มีนาคม 2564 ส่วนเด็กนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าค่ายลูกเสือพนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพคาดว่าจะสามรถสอบปากคำในวันจันทร์ที่ 22 มีนาคม 2564 เพื่อที่จะสรุปว่าเป็นการประมาทหรืออุบัติเหตุ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทาง พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ก็ได้กำชับและดูแลอย่างใกล้ชิด โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะต้องให้ความเป็นธรรมของกับทุกฝ่าย และหากตรวจสอบว่าใครผิดจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป