กอ.รมน.หนองบัวลำภู เตือนภัยสังคมหลังมีผู้ประกาศตน เป็นศาสดาผู้นำจิตวิญญาณ พระศรีอริยเมตไตรย


วันนี้(15 มีค.64)ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.อ.ปริชญ์ สุคันธศรี รอง ผอ.กอ.รมน.จ.หนองบัวลำภู ภายหลังจับตาดูพฤติกรรมทางโลกออนไลน์ที่มีการแชร์คลิป ที่มีผู้ชายคนหนึ่ง แต่งกายนุ่งขาวห่มขาว กำลังทำพิธีประกาศตัวเองว่าเป็น พระศรีอริยเมตไตรย เป็นศาสดาองค์สุดท้าย จะมาช่วยให้ทุกคนรอด จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก โดยคลิปดังกล่าว ได้มีการนำมาเผยแพร่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเมืองหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา และจะมีการดำเนินอีกครั้งในวันที่ 30 มีค.ศก.นี้
หลังทราบข่าว กอ.รมน.จ.หนองบัวลำภู ได้ลงพื้นที่ตามสื่อที่มีการเผยแพร่ ซึ่งสถานที่ดังกล่าว เป็นสถานที่เรียกว่า สวนธรรมชาวศรีวิไล ตั้งอยู่ที่เลขที่ 195 หมู่ 1 ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู อยู่ช่วงถนนระหว่าง สำนักงานขนส่ง-บ้านสว่างพัฒนา อยู่ห่างจากเส้นทางดังกล่าวเข้าไป ประมาณ 200 เมตร พบว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นลักษณะบ้านชั้นเดียว มีห้องนอนเดียว ติดพื้นดิน ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ส่วนบริเวณข้างบ้าน ได้มีการกางเต็นท์สองข้างไว้รองรับ ผู้ที่มาร่วมปฏิบัติธรรม ซึ่งใช้พื้นที่ด้านหน้าข้างบ้านเป็นที่ตั้ง พระพุทธรูป ส่วนบริเวณหลังบ้านมีห้องน้ำ ร่วม 10 ห้อง ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าว มีบ้านอยู่ด้านข้างเพียงหลังเดียวเป็นสภาพโล่ง
พ.อ.ปริชญ์ สุคันธศรี รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดหนองบัวลำภู (ฝ่ายทหาร) กล่าวว่าที่ผ่านมา ทาง กอ.รมน.จังหวัดหนองบัวลำภู ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้มาโดยตลอด และได้รายงานให้ นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูทราบ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูได้มีการสั่งกำกับติดตามเรื่องนี้และ ที่ผ่านมายังไม่พบว่า มีคนในพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เข้าใจว่าคนในพื้นที่เขาก็ไม่เห็นด้วยก็อาจจะมีการแสดงออกไม่ให้มีการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ และหากการจัดกิจกรรมขัดต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน หรือมีการรวมกลุ่มกันเคลื่อนไหว ส่อถึงการสร้างสถานการณ์ไม่สงบ หมิ่นเหม่ต่อความมั่นคง ของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หรือไม่ ตอนนี้ยังติดตามอยู่และจะได้มีการประสานงานไปยังฝ่ายปกครองอำเภอ เพื่อทำความเข้าใจกับ ประชาชนในพื้นที่ต่อไป
ในขณะที่ นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้พิจารณาข้างต้น จึงไม่อนุญาตให้กลุ่มฯจัดกิจกรรม และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหนองบัวลำภู ประสานไปยังฝ่ายสงฆ์ในพื้นที่ ให้ทราบข้อเท็จจริง และงดเว้นการให้พระสงฆ์เข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มดังกล่าว พร้อมกำชับผู้นำในพื้นที่ประชุมชี้แจงราษฎรในการดูแลของตน ให้เข้าใจสถานการณ์การทำกิจกรรมของกลุ่มกุศลฯ ที่บิดเบือนหลักคำสอน ตั้งตนเป็นศาสดา อันจะนำมาซึ่งความแตกแยกในสังคมในอนาคต หากมีข้อมูลหลักฐาน พฤติกรรม หากครบองค์ประกอบความผิด จะดำเนินการบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป
ทีมข่าวอีสานเดลี่ออนไลน์ประจำจังหวัดหนองบัวลำภู