รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ในการปฎิบัติงานสกัดกั้นยาเสพติดตามชายแดน ด้านจังหวัดหนองคาย ย้ำยึดทรัพย์ให้ได้ 6,000 ล้าน
วันที่ 11 ก.พ. 64 ที่ บริเวณ จุดจอดเรือบ้านสีกายเหนือ หมู่ที่ 6 ต.สีกาย อ.เมือง จ.หนองคาย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานสกัดกั้นยาเสพติดตาม โดยมี นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ,พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , พล.ต.ต. กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ,นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และหน่วยงานเกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
รับฟังบรรยายสรุปจาก กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี,กองคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย และผู้นำท้องถิ่น เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนด้านจังหวัดหนองคาย จากนั้น รมว.ยุติธรรม มอบนโยบายในการปราบปรามยาเสพติด จากการประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 64 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบาย ปราบปรามอย่างเข้มข้น กำหนดเป้าหมายการขยายผล ยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติดให้ได้ 6,000 ล้านบาทเน้นการบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อตัดวงจรยาเสพติด ภายใต้การดำเนินงานของ “ศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด” โดยกำหนดเป็นมูลค่า การยึดทรัพย์สินกระจายลงสู่ระดับจังหวัด รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถทั้งด้านการสืบสวนสอบสวน หลังจากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ค้า ได้เปลี่ยนเส้นทางการลำเลียง จากชายแดนภาคเหนือ เปลี่ยนมาใช้เส้นทางตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะด้านจังหวัดหนองคาย มีระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีช่องทางธรรมชาติหลายแห่งที่สามารถลักลอบข้ามได้ง่าย
นายสมศักดิ์ ฯ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ในปี 2564 รัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรม มุ่งเน้นที่จะริบทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ได้จำนวนมากขึ้นกว่าเดิม 10 เท่า คือ 6,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการลิดรอนศักยภาพของนักค้ายาเสพติด ในการดำเนินงานตรวจสอบและริบทรัพย์สินที่ผ่านมาหากคำนวณจากปริมาณ ยาเสพติดที่แพร่ระบาดอยู่มาเป็นตัวเงิน จะมีมูลค่ามากถึงหลักล้านล้านบาท แต่ในปีหนึ่งๆ เราสามารถยึดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดได้เพียงหลักพันล้านบาทเท่านั้น จากหลักคิดดังกล่าว จึงนำมาสู่แนวทางใหม่ ในการยึดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในกลุ่มผู้ถูกจับกุมและขยายผลไปยังเครือข่ายการค้า โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีการทำธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้จัดตั้งทีมสืบสวนขยายผล โดยใช้เครื่องมือพิเศษเชื่อมโยงกับทุกคดี ให้มีการประเมินมูลค่ายาเสพติดตามมูลค่าจริง และให้ติดตามยึดทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์ ผู้กระทำผิดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้รับจากการค้ายาเสพติดอย่างเด็ดขาด
โดยนายกฯ ได้กำชับในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การใช้กฎหมายสมคบคิดและการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด เพื่อให้การปราบปรามได้ถึงต้นตอและตัวการ เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังในการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด เน้นการสืบสวนยึดทรัพย์ จะเป็นการป้องกันการสูญเสีย เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ต้องลงไปตั้งด่านสกัดจับกุม เพียงใช้เครื่องมือสืบสวนต่อยอดจากธุรกรรมและเส้นทางการเงิน ซึ่งจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น นายสมศักดิ์ฯ รมว.ยุติธรรม กล่าว
:ฤาษีลภ-ปวีณา//จ.หนองคาย