วันที่ 8 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการรับสมัครชิงเก้าอี้ “เทศบาลนครอุบลราชธานี”ซึ่งถูกจับตาเป็นอย่างมาก หลังจาก “กลุ่มคุณธรรม” ที่มีนางสาวสมปรารถนาวิกรัยเจิดเจริญ นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี คนล่าสุด ไม่ลงสมัครทำให้ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้มี 2กลุ่มที่มีการเตรียมความพร้อม“หาเสียง”
เริ่มจากกลุ่มที่ 1 พรรคเพื่อไทยหนุน “เพื่อไทยนครอุบล” เต็มสูบ ส่ง“นางสาว พิศทยา ( สิ่ว)ไชยสงคราม ”ภรรยานายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ส.ส.อุบลฯเขต 1 พรรคเพื่อไทย และเป็นลูกสะใภ้ของนายเกรียง กัลป์ตินันท์รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชิงเก้าอี้นายกเล็ก พร้อมดึงคนรุ่นใหม่ ชูนโยบายฟื้นฟูนครอุบล ปลุกชีวิต สร้างเศรษฐกิจดีพิศทยา กล่าวว่าตนเป็นคนที่เข้าใจคนทุกรุ่น เพราะเป็นคนที่ทำงานอยู่กับคนทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ จึงถือว่า นี่คือจุดแข็ง ที่จะสามารถเข้าไปประสานงาน และทำงานเพื่อพี่น้องได้อย่างเข้าใจ จากประสบการณ์ที่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ จะนำประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยพี่น้องแก้ไขปัญหาคนตกงาน ว่างงาน หรือความยากจนได้ ขณะนี้ปัญหาที่เป็นปัญหาหลักของนครอุบล คือ ปัญหาเศรษฐกิจ คนจน คนตกงาน เพิ่มจำนวนขึ้นตนจึงมีแนวคิดที่จะใช้ประสบการณ์ที่มี “ฟื้นฟูนครอุบล ปลุกชีวิต สร้างเศรษฐกิจดีให้คนอุบล” เช่น ฟื้นโครงการถนนเลียบแม่น้ำมูลถึงอ่างเก็บน้ำห้วยวังนอง เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ เป็นสถานที่ออกกำลังกายให้กับคนอุบล มีตลาดนัดริมแม่น้ำมูล ตรงนี้ใช้งบประมาณไม่มาก แต่จะเป็นการพลิกฟื้นนครอุบลในระยะยาวเพราะ ถนนรอบมูล นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ยังจะสามารถเป็นตลาดนัด และตลาดนัดโต้รุ่ง Street Food ได้ยกระดับอุบลเป็น “Green City : นครอุบล ปอดของคนอีสาน
นางสาวพิทศยา กล่าวอีกว่า “หากได้รับโอกาส ก็พร้อมจะลงมือทำงานทันที อยากใช้ความสามารถพัฒนาบ้านเกิด จึงถือโอกาสนี้ ขอโอกาสจากพี่น้องนครอุบล และขอให้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพราะนอกจากจะได้นายกที่พี่น้องต้องการแล้วยังถือว่าเป็นการออกมาเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย
กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มเพื่ออุบล ของนายประชา กิจตรงศิริ อดีตรองนายกเทศบาลนครอุบลหลังจาก “กลุ่มคุณธรรม” ที่มีนางสาวสมปรารถนา อดีตนายกเทศมนตรีคนล่าสุดในฐานะ“แชมป์เก่า” ไม่ลงสมัคร “ประชา” จึงได้ รวบรวม พลพรรคที่มี“ไอเดีย” ในการ “ฟื้นเมืองอุบล”ประกอบกับคนในเขตเทศบาลนครอุบลต้องการผู้บริหารที่มี“วิสัยทัศน์”จึงขออาสาเป็นหัวหน้าทีมลงสมัครนายกเทศบาลนครอุบล เพื่อลงเป็น“ตัวเลือก”โดยมีกลุ่มสนับสนุนส่วนหนึ่งจากอดุลย์ นิลเปรมอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐและกลุ่มรักอุบลของเต็มบุญศรีธัญญรัตน์ โดยพร้อมอาสาเข้าไปสานงานต่อทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ชุมชนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ซึ่งกลุ่มประชาได้ออกนโยบายและเป็นนโยบายที่พัฒนาและแก้ปัญหาได้จริงไม่ขายฝันดังนั้นเมื่อมีผู้เสนอตัวเพื่อเป็นผู้บริหาร เทศบาลนครอุบลจึงเป็นโอกาสของคนอุบลว่าจะเลือกใครมาเป็นผู้บริหารคนต่อไป