ขอนแก่น(ชมคลิป)ผบ.ภ.4 ลงพื้นที่บ้านฝางเร่งตรวจสอบชาวบ้านถูกสวมสิทธิ์คนละครึ่ง

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคลงพื้นที่ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น สั่งตั้งคณะทำงานเร่งตรวจสอบ ชาวบ้านถูกสวมสิทธิคนละครึ่ง  เร่งสอบพยานเตรียมตั้งอีกหลายข้อหาหากพบหลักฐานการกระทำความผิด ขณะที่วันนี้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 38 คน

       วันที่ 5 กุมภาพันธุ์ 2564  จากกรณีมีการสวมสิทธิ์ชาวบ้าน ในโครงการ เราเที่ยวด้วยและโครงการคนละครึ่ง มีผู้เสียหายจำนวนมากที่ จ.ขอนแก่น ทำให้ช่วงบ่ายวันนี้ที่สถานีตำรวจภูธรบ้านฝาง จ.ขอนแก่น   พล.ต.ทยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.พุฒิพงษ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น  พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สืบสวนสอบสวนภาค 4 ร่วมกันเข้าสอบปากคำครูฝน อายุ 40 ปี (นางบุหงา สุดงูเหลือม ครูโรงเรียนบ้านโสกแต้ หมู่ที่ 8 บ้านโสกแต้   ตำบลป่าหวายนั่ง  อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น)  ซึ่งเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น หลังถูกชาวบ้านโนนค้อกว่า 30 รายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวหาว่า ครูฝนเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการแจกเงิน ถ่ายเอารูปบัตรประชาชนชาวบ้านไปใช้สิทธิ์ในโครการคนละครึ่งและโครงการเราเที่ยวด้วยกัน

        ส่วนผู้เสียหายวัย 59 ปีคนนี้ บอกว่า เดินทางมาให้กำลังใจนางสาวฝน (นามสมมุติ)ซึ่งเป็นหลานสาว โดยตัวเองก็เป็นผู้เสียหายจากการได้เงิน 200 แลกกับนำเอาบัตรประชาชน ให้นางสาวฝนไปลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง สาเหตุหลักที่ยอมให้บัตรประชาชนเธอยอมรับว่า อยากได้เงิน เพราะไม่สามารถที่จะใช้สิทธิโครงการดังกล่าวได้ และวันนี้ไม่ได้มาแจ้งความเอาผิดหลานสาวตัวเอง เพราะคาดว่าหลานก็น่าจะถูกจ้างมากอีกที แต่ส่วนตัวคิดว่า มีความผิดหมดทุกฝ่าย

          ทางด้านของ พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสภ ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า จากการได้รับข้อมูลเบื้องต้นก็ชัดเจนว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำเป็นกระบวนการเนื่องจากผู้เสียหายที่เข้ามาแจ้งความนั้นมีไม่ต่ำกว่า 30 ราย และเชื่อว่าจะมีมากกว่านี้ ส่วนประชาชนที่ไม่กล้าเข้าแจ้งความถ้าถูกหลอกโดยการเอาบัตรประชาชนไปใช้ให้เข้ามาแจ้งความได้ หากตัวผู้ต้องสงสัยมีการเคลียร์กับผู้เสียหายเองก็อาจจะมีส่วนร่วมในการถูกดำเนินคดี แต่ถ้าบริสุทธิใจก็ให้ชาวบ้านมาแจ้งความร้องทุกข์ได้

            ในส่วนของข้อกล่าวหานั้นทั้งเรื่องฉ้อโกงและ พรบ.คอมพิวเตอร์ ต้องตรวจสอบอีกครั้ง โดยคดีลักษณะนี้เคยเกิดมาแล้วที่จังหวัดชัยภูมิ ในส่วนของผู้ก่อเหตุครั้งนี้คาดว่ามีประมาณ 3-4 คน เป็นผู้ร่วมขบวนการซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ

        อีกทั้งยังมีการฝากเตือนประชาชนอีกว่าในกรณีที่มีการมาขอซื้อสำเนาบัตรประชาชนและมีค่าตอบแทนอย่าได้ไปหลงเชื่อ เพราะผู้ที่ซื้อไปอาจจะนำไปใช้เรื่องใดเรื่องหนึ่งแน่นอนเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ  และคนยอมขายให้อาจจะมีข้อหาคาบเกี่ยวกับคนซื้อได้ขณะที่วันนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรบ้านฝางแล้ว 38 คน.