หนองคาย(ชมคลิป)จับตาใครได้ประโยชน์ หลังด่านศุลกากร ประชุมแนวทางการปฎิบัติในการพิจารณาให้มีการนำเข้าหิน กรวด ทรายแม่น้ำโขง จาก สปป.ลาว

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564 ที่ห้องประชุมนาคราช ชั้น 2 ด่านศุลกากรหนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจงหวัดหนองคาย เป็นประธานการประชุมแนวทางการปฎิบัติในการพิจารณาให้มีการนำเข้า สินค้าประเภทหิน กรวด และทรายแม่น้ำโขง เพื่อมิให้เกิดผลกระทบในการดูแลรักษาความมั่นคงของชาติในพื้นที่ชายแดน
สถานการณ์การดูดทรายตามริมแม่น้ำโขงจังหวัดหนองคายปัจจุบัน มีผู้ประกอบการเหลือเพียง 8 ราย จากประมาณ 24 ราย เนื่องจากจังหวัดหนองคาย มีการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งเพิ่มมากขึ้น ทำให้การอนุญาตดูดทรายภายในประเทศตาม มาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินไม่สามารถทำได้ ซึ่งปัจจุบันจังหวัดหนองคายมีท่าทรายที่สามารถเปิดดำเนินการได้ตามกฎหมายเพียง 8 รายและอาจจะหมดไปในอนาคตอันใกล้ ซึ่งข้อตกลงในการประชุมไทย-ลาว ที่เมืองพัทยา ปี พ.ศ. 2551 การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง ข้อกำหนดทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการดูดทรายตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง โดยให้พื้นที่ดูดทรายต้องมีระยะห่างจากสะพาน เขื่อนป้องกันตลิ่ง ท่าเรือโรงพยาบาล โรงแรม สิ่งก่อสร้างที่สำคัญอื่น ๆ ไม่น้อยกว่า 1,000 เมตร และอยู่ห่างจากบ้าน ศาสนสถาน และโรงเรียนไม่น้อยกว่า 500 เมตร เขื่อนป้องกันตลิ่งเพิ่มมากขึ้นในประเทศ ตาม มาตรา 9 ไม่สามารถทำได้การดูดทรายได้
ซึ่งยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ปี2561-2580 ปัญหาขาดแคลนวัสดุในการก่อสร้าง (ทราย) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพื่อปูทางสู่อนาคต ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในมิติต่าง ๆ ทั้งโครงข่ายระบบคมนาคมและขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน ลดปัญหาการขาดแคลนทรายสำหรับการก่อสร้างภายในจังหวัด เกิดการจ้างงาน เป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดและเกิดผลดีกับหลายฝ่าย ลดปัญหาการพังทลายของตลิ่งแม่น้ำโขงฝั่งไทย ที่อาจส่งผลต่อดินแดนและอธิปไตยของไทยในอนาคต สามารถเก็บภาษีแวตเข้ารัฐได้อีกทางหนึ่ง โดยจะเริ่มต้นในพื้นที่ อ.โพนพิสัย ก่อนเป็นจุดแรก
ด้านผู้ประกอบการ รายหนึ่ง หลังทราบข่าว กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการที่จะต้องนำเข้าทรายจาก สปป.ลาว เนื่องจากประเทศไทยมีทรายเป็นจำนวนมาก ซึ่งมุมมองของผู้ประกอบการดูดทรายเชื่อว่าอาจสร้างความเสียหายระดับประเทศได้ จริงแล้วต้องไปแก้ข้อกำหนดทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการดูดทรายตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง ในการประชุมไทย-ลาว ที่เมืองพัทยา ปี 2551 ซึ่งทางประเทศไทยบังคับใช้มาโดยตลอดอีกฝ่ายไม่ได้บังคับใช้เลย ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการดูดทรายของไทย ตามมาตรา 9 เริ่มปิดตัวลง และจะหมดไปในที่สุด ดังนั้นอนาคตเราต้องนำเข้าทรายจาก สปป.ลาว ถ้าไม่สามารถดูดทรายได้และมีการนำเข้าทราย จากสปป.ลาว การกำหนดราคานำเข้านั้นซึ่งทาง สปป.ลาว จะเป็นผู้กำหนดราคาเอง ปัจจุบัน(ม.ค. 64) ทรายในประเทศ(จังหวัดหนองคาย) จำหน่ายอยู่ที่ คิวละ 280 -300 บาท เมื่อก่อนต้นทุนทรายจะอยู่ที่ 60-80 บาท ต่อคิว ไม่รวมค่าขนส่ง หากนำเข้าเชื่อว่าราคาสูงแน่นอน ผู้ประกอบการกล่าว ควรมีการประชุมอนุกรรมการ ไทย-ลาว เพื่อแก้ ข้อกำหนดทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการดูดทรายตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง ที่เมืองพัทยา ปี 2551 ผู้ประกอบการดูดทรายจึงจะสามารถดูดทรายตาม มาตรา 9 ได้ จังหวัดหนองคาย ทรายก็จะไม่ขาดแคลนและราคาถูกกว่าการนำเข้า

:ฤาษีลภ-ปวีณา//จ.หนองคาย