เตรียมเข้มมาตรการเข้มข้นหลังพบว่ากลุ่มเสี่ยง ยังมีการไม่ควบคุมตนเอง ยังใช้ชีวิตตามปกติ
วันที่ 11 มกราคม 2564 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมนาย นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นพ.สาธารณสุขขอนแก่น และ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่7 ขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าว พบผู้ติดเชื้อยืนยันของจังหวัดขอนแก่น เพิ่ม1 ราย ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ติดเชื้อรายที่5 ได้ตรวจคัดกรองไปเมื่อวันที่9 มกราคมที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าพบเชื้อโควิด19 ซึ่งขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่นแล้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อรายล่าสุดของจังหวัดขอนแก่น มาจากการตรวจคัดกรองของเจ้าหน้าที่ หลังจากที่ผู้ติดเชื้อรายที่4 และ5 ที่เดินทางกลับจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด จ.อ่างทอง เข้าตรวจคัดกรองในชุมชนทั้งหมด 108 ราย ซึ่งพบ 1 รายที่ผลเป็นบวก คือชายอายุ 17 ปี เป็นผู้ใกล้ชิดกับรายที่5 ซึ่งมีการรับประทานอาหารร่วมกันเมื่อวันที่ 4 มกราคม ซึ่งหลังจากพบว่าเพื่อนติดเชื้อก็ได้เข้าสู่กระบวนการกักตัว ทันที และมีการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่9 มกราคมที่ผ่านมา และผลออกเมื่อวันที่10 พบว่า ชายวัย17 ปี รายนี้ติดเชื้อ
ทางด้าน นพ.สสจ.ขอนแก่นเปิดเผยว่า สิ่งที่ สสจ.ดำเนินการ หลังจากผู้ติดเชื้อรายที่4และ5 มีกิจกรรมทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเพื่อน ก็ได้มีการสอบสวนโรค พบว่า รายที่5 ได้สัมผัส รายที่6 ในวันที่4 มกราคม หลังจากนั้นรายที่6 ได้เข้ามาที่ รพ.ขอนแก่น เนื่องจากมีไทมไลน์ พบว่าสัมผัสที่อาจเกี่ยวข้องกัน โดยได้ให้ทีมตรวจคัดกรองตรวจที่ วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น ผลตรวจออกมา ทั้งหมด 99 รายไม่พบเชื้อ ส่วนในการดำเนินการ ต่อไปคือเฝ้าระวังสูงสุด ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้กลุ่มเพื่อนที่สนิทได้เฝ้าระวังอย่างเข้มข้น และมีการดำเนินการสอบสวนควบคุมโรค ส่วนในบริเวนที่ผู้สัมผัสและผู้ได้รับการตรวจ ก็มีการให้คำแนะนำ อีกทั้งดำเนินการฆ่าเชื้อในสถานที่ที่อยู่ไทม์ไลน์ นอกจากนี้ยังเน้นย้ำว่า ผู้ติดเชื้อรายที่ 4, 5, 6 ยังมีมาตรการส่วนบุคคลไม่เข้มข้นยังใช้ชีวิตเหมือนปกติ ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย ถือเป็นอุทาหรณ์ ว่าสิ่งที่เน้นย้ำ กับประชาชนหากเข้มข้นกับตนเอง จะเกิดความเสี่ยงติดเชื้อน้อยมาก
โดยหลังจากนี้ 2 สัปดาห์ จะชาเล้น คนขอนแก่นทั้งเมืองจะใช้มาตรการเข้มข้นโดยจะมีการประชาสัมพันธ์ การใช้แอปป์หมอชนะ ให้คนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ต่างๆ ฝึกการใช้แอปป์นี้เพื่อเป็นการตรวจสอบตัวเอง แข่งกันระหว่างชุมชนเพื่อเปลี่ยนพื้นที่สีเหลืองให้เป็นสีเขียว สิ่งต่อมาคือการแจ้งให้คนในทุกพื้นที่ สื่อสารไปยังญาติทางไกล ต่างจังหวัดที่จะเดินทางเข้าขอนแก่น ให้ส่งคิวอาร์โค้ดให้ญาติสแกนในจังหวัดนั้นๆ ก่อนเดินทางมา เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีเวลาติดตามเชิงรุก นอกจากนี้ยังเน้นย้ำให้ใช้แอปป์ไทยชนะ และยังเน้นย้ำการใช้แอปป์หมอชนะเพื่อเฝ้าระวังตนเอง ลดภาระเจ้าหน้าที่ เพราะขณะนี้ มีคนต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาที่ จ.ขอนแก่น รายงานตัวแล้วกว่า 1หมื่นเก้าพันคน นั่นแสดงว่าเจ้าหน้าที่ต้องลงไปเฝ้าระวังบุคคลเหล่านั้น
ส่วนการสอบสวนโรคในผู้ติดเชื้อรายที่6 ไม่มีอาการผิดปกติ แต่ยังต้องเฝ้าระวัง หากหลังจากนี้จะต้องติดตามให้ครบกำหนดการรักษา ส่วนคนที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมดก็จัดให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว