ศรีสะเกษ – พม่าหลงทาง โผล่กลาง บขส.ศรีสะเกษ จนท.เร่งสกัดตรวจสอบวุ่น ระบุขึ้นรถผิดคัน


เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 7 ม.ค. พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจตามมาตรการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บขส.ศรีสะเกษ ได้ตรวจพบแรงงานสัญชาติเมียนมา เป็นหญิงสาว อายุประมาณ 35 ปี ขณะกำลังซื้อตั๋วโดยสารจะเดินทางมุ่งหน้าไปลงที่ จ.บุรีรัมย์ จึงได้ประสานงานร่วมกับ เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข เจ้าหน้าที่กรมจัดหางาน เจ้าพนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่แรงงาน ศูนย์ดำรงธรรมฯ ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ และล่าม ไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึง พบหญิงสาวคนดังกล่าว ทราบชื่อคือ AYE THIDA MO สัญชาติ เมียนมา อายุ 36 ปี ซึ่งมีพาสปอร์ตถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข จึงได้ดำเนินการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย มีอุณภูมิ 36.3 องศา ไม่มีอาการไอ หอบเหนื่อย และได้มีผลการตรวจวิเคราะห์โรคโควิด-19 จากโรงพยาบาลประโคนชัย เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 63 ที่ผ่านมา ผลไม่พบสารพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 แต่อย่างใด
จากนั้นจึงได้เชิญตัวไปยัง สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อสอบถามและลงบันทึกประจำวัน ซึ่งหญิงสาวชาวเมียนมา คนดังกล่าว เล่าว่า ตนกำลังจะซื้อตั๋วเดินทางกลับไปทำงานที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของนายจ้าง เนื่องจากตนขึ้นรถผิดคัน จาก จ.บุรีรัมย์ เพื่อที่จะไปลงที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ แต่ปรากฏว่ารถได้วิ่งมาที่ จ.ศรีสะเกษ จึงรีบลงรถเพื่อที่จะตีตั๋วเดินทางกลับ แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่สกัดตัวไว้ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานไปยังนายจ้าง ซึ่งเป็นชาวจีน ของบริษัท เชียงกุ้ย เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ที่อยู่เลขที่ 231 ม.2 ต.โคกย่าง อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ มารับตัวพร้อมทั้งกำชับให้เพิ่มการกำกับดูแลและควบคุมแรงงานตางด้าวมิให้แรงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเดินทางเข้า-ออก นอกเขตตำบลที่ตั้งสถานที่ทำงาน
ทั้งนี้จากการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยว เห็นว่า หญิงสาวคนดังกล่าว ได้ขึ้นรถประจำทางโดยสารผิดคัน ไม่มีเจตนาในการเดินทางเข้ามาภายใน จ.ศรีสะเกษ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรการระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตามคำสั่งจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 5376/2563 ลง 30 ธันวาคม 2563 แต่อย่างใด จึงได้ให้เดินทางออกจาก จ.ศรีสะเกษ ไปยัง อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ในทันที พร้อมทั้งเมื่อเดินทางไปถึงให้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เพื่อเป็นหลักฐานอีกด้วย.