เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 ธันวาคม นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดตัว “โครงการระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อการเกษตร และผลิตพลังงานไฟฟ้า” (Bio Treatment for Green Environment) ของ บริษัท อุบลซันฟลาวเวอร์ จำกัด บริษัทในเครือของกลุ่มบริษัทอุบลไบโอเอทานอลต่อจิ๊กซอว์การบำบัดของเสียครบวงจรที่สุดในประเทศไทยรวม 4 ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพิ่มระบบตะกอนเร่ง (Activated Sludge) มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ส่วนท้องถิ่น เกษตรกรผู้ใช้น้ำ และชุมชนโดยรอบโรงงานเข้าร่วมกว่า 100 คน ณ บริษัท อุบลซันฟลาวเวอร์ จำกัด 299 หมู่ 9 บ้านหนองแปน ต.นาดี อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี ภาพรวมของการบริหารจัดการของเสียที่ได้จากกระบวนการผลิตของ 2 โรงงาน ได้แก่ บริษัท อุบลซัน ฟลาวเวอร์ จำกัด โรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลัง ,แป้งมันออร์แกนิค,แป้งฟลาว และ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) โรงงานผลิตเอทานอลเกรดเชื้อเพลิง 99.8% และเกรดอุตสาหกรรมสำหรับทำความสะอาดมือ 70% ปัจจุบันทางบริษัทฯ มีการบริหารจัดการของเสียครบวงจร โดยเริ่มจาก บริษัท อุบลซันฟลาวเวอร์ จำกัด “น้ำเสีย และกากมันฯ จากโรงงานแป้งมันสำปะหลัง” น้ำเสียจะนำเข้าสู่ระบบบำบัดที่เรียกว่าระบบ UASB (Upflow Anaerobic Sludge Blanket) เป็นการบำบัดน้ำด้วยจุลินทรีย์ ในถังซีเมนต์แบบไร้อากาศขนาดใหญ่ (เปิดดำเนินการเมื่อปี 2553) และกากมันฯ จะนำเข้าสู่ระบบ CLBR (Covered Lagoon Bio Reactor) (เปิดดำเนินการเมื่อปี 2558) ซึ่งเป็นระบบบ่อหมักกากจำนวน 3 บ่อ ขนาดบ่อละ 43,000 ลบ.ม คลุมด้วยผ้า HDPE มีความยืดหยุ่นและกันน้ำ เพื่อสร้างสภาวะไร้อากาศ สามารถ กักเก็บก๊าซจากการย่อยสลายของแบคทีเรีย สองระบบนี้สามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้ 168,000 ลบ.ม./วัน ก๊าซชีวภาพที่ผลิตได้จะนำไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 7.5 เมกกะวัตต์ และนำไปใช้เป็นพลังงานทดแทนการใช้น้ำมันเตาในการอบแป้งให้แห้ง ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 514,012 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ลดต้นทุนพลังงานโดยสามารถช่วยประหยัดงบประมาณคิดเป็นมูลค่า 81 ล้านบาทต่อปี
และในส่วนของการบำบัดน้ำเสียของโรงแป้งแห่งนี้ได้ลงทุนเทคโนโลยีเพิ่มเติมที่เรียกว่า “ระบบตะกอนเร่ง” (Activated Sludge) มีการทดสอบระบบแล้วเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ทำหน้าที่บำบัดซ้ำอีกครั้งต่อจาก 2 ระบบข้างต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เป็นระบบบำบัดน้ำเสียชีวภาพแบบผสม (Combined Biological Treatment System) โดยการทำงานร่วมกันระหว่างระบบไร้อากาศ (Anaerobic System) และระบบการเติมอากาศ (Aerobic System) จะใช้วิธีการเลียนแบบธรรมชาติด้วยการให้จุลินทรีย์แขวนลอยเข้ามาย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย จากนั้นน้ำจะไหลผ่านแผ่นชีวภาพซึ่งถูกออกแบบมาคล้ายเป็นแผ่นลูกฟูกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสารอินทรีย์ในน้ำเสีย จากนั้นน้ำจะไหลผ่านแผ่นชีวภาพซึ่งถูกออกแบบ มาคล้ายเป็นแผ่นลูกฟูกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าจัดวางแบบซิกแซก โดยจะเป่าอากาศจากด้านล่างของแผ่นชีวภาพเข้าไปช่วยเพิ่มการละลายออกซิเจนในน้ำเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า สามารถลดระยะเวลาการพักน้ำในบ่อพัก (Oxidation Pond) จาก 190 วัน เหลือเพียง 2 วันเท่านั้น ลดการใช้พื้นที่จากเดิม 121 ไร่ เหลือเพียง 2 ไร่ สามารถยกเลิกการใช้บ่อพักน้ำฯ ได้ 100 % ปัจจุบันน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรทั้งพืชไร่ และพืชสวนโดยการนำไปใช้ประโยชน์ทางบริษัทฯ ใช้งบประมาณลงทุนเพื่อเพิ่มคุณค่าจากน้ำเสีย สร้างประโยชน์ ทางการเกษตรจำนวน 2 โครงการ คือ โครงการปลูกหญ้าเนเปียร์ เพื่อเป็นอาหารสัตว์ และพลังงาน บนที่ดิน ของบริษัทฯ จำนวน 1,200 ไร่ และโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำบำบัดเพื่อการเกษตร ที่มีเกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านการขออนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนสมาชิก 463 ครัวเรือน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาเยีย และอำเภอสว่างวีระวงศ์ คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 10,000 ไร่ รวมมูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาทที่บริษัทฯ ลงทุนในเรื่องของอุปกรณ์ท่อส่งน้ำ ปั๊มระบบไฟฟ้า และบ่อพักน้ำ ส่วนการบริหารจัดการของเสียของบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) “น้ำเสีย และกากมันฯจากโรงงานเอทานอล” น้ำเสียจะนำเข้าสู่ระบบบำบัดที่เรียกว่า MUR (Methane Upflow Reactor) เป็นการบำบัดน้ำด้วยจุลินทรีย์ในถังเหล็กแบบไร้อากาศขนาดใหญ่ พร้อมดำเนินการเมื่อปี 2557 สามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้ 98,000 ลบ.ม. / วัน และแปลงเป็นพลังงานความร้อนนำไปเป็นเชื้อเพลิงทดแทนการใช้ชีวมวล สำหรับหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 333,056 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ลดต้นทุนพลังงานโดยสามารถช่วยประหยัดงบประมาณคิดเป็นมูลค่า 130 ล้านบาทต่อปี กากมันของโรงงานเอทานอล ภายหลังจากการหมักด้วยยีสต์จะเข้าสู่เครื่องแยกกาก (Decanter) ทางบริษัทฯ ได้ลงทุนโครงการวิจัยกากมันฯ เป็นสารปรับปรุงบำรุงดินเพื่อการเกษตร ร่วมกับสำนักวิจัย และพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 และสถานีพัฒนาที่ดินอุบลราชธานี โดยนำกากมันฯ มาตาก และฉีดพ่นจุลินทรีย์ช่วยเร่งการย่อยสลาย สารปรับปรุงดินสามารถเป็นอินทรีย์วัตถุช่วยปรับโครงสร้างดินทรายให้มีความชุ่มชื้น และมีธาตุอาหารที่พืชนำไปใช้ประโยชน์ ปัจจุบันสามารถพัฒนาเป็นสารปรับปรุงดินสูตร 1 ส่งเสริมให้กับเกษตรกรโครงการปลูกมันอินทรีย์นำไปใช้ในการผลิตตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล และในอนาคตกากมันจากโรงงานเอทานอลจะพัฒนางานวิจัยไปสู่อาหารสัตว์ ที่มีโปรตีนสูงที่ตอบโจทย์การเลี้ยงโคเนื้อคุณภาพส่งเสริมอาหารลดต้นทุน สร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้นและทั้งหมดนี้คือปณิธานอันแรงกล้าของกลุ่มบริษัทอุบลไบโอเอทานอล ในเรื่องการจัดการของเสียพร้อมดำเนินงานภายใต้นโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยกันสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ควบคู่กับจังหวัดอุบลราชธานี เป็นแหล่งการเรียนรู้ และผลิตพลังงานสะอาด และอาหารสุขภาพของประเทศไทยต่อไป