จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับภาคเอกชน สนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสดแทนการเผา เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5
นายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นายพิชิต สมบัติมาก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดขอนแก่น นางศิริวรรณ สุดาจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 10 นายสมพงษ์ เข็มเหล็ก หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น นายประจวบ รักษ์แพทย์ นายอำเภอกระนวน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ไร่อ้อยของนายสมัย โสมาบุตร เกษตรกรชาวไร่อ้อย บ้านนาฝายใต้ ตำบลห้วยโจด อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่อง เพื่อทดลองใช้เครื่องสางใบอ้อย แทนการเผา ก่อนที่จะจ้างแรงงานมาตัด เพื่อนำไปขายให้กับโรงงานน้ำตาล ในฤดูหีบอ้อย
นายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า แนวทางและวิธีการที่จะจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยปรับเปลี่ยนวิธีการใช้เครื่องสางใบอ้อยแทนการเผา หรือการจ้างแรงงานตัดซึ่งมีราคาสูง จากการเจรจาพูดคุยกับบริษัทรับซื้ออ้อยและโรงงานรับซื้อใบอ้อย เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงานไฟฟ้า เนื่องจากจังหวัดขอนแก่นมีพื้นที่ปลูกอ้อยจำนวนมาก ซึ่งจังหวัดได้มีการรณรงค์ลดการเผาเพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ มาอย่างต่อเนื่อง และการลงพื้นที่ติดตามผลการทดลองใช้เครื่องตัดสางใบอ้อย พบว่า สามารถใช้งานได้จริงและช่วยลดการเผาใบอ้อยได้ เกษตรกรสามารถตัดอ้อยสดได้ง่ายและสะดวกขึ้น ส่วนใบอ้อยที่ทำการสางแล้วจะมีเครื่องอัดใบอ้อยเพื่อนำไปจำหน่าย ในราคากิโลกรัมละ 1 บาท จากการสอบถามเกษตรกรชาวไร่อ้อย การตัดสางใบอ้อย 1 ไร่ จะได้ใบอ้อยประมาณ 1,500 – 1,600 กิโลกรัม ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยได้อีกทางหนึ่ง และการแก้ปัญหาอีกแนวทางหนึ่งคือการนำรถตัดสางใบอ้อย มาให้บริการฟรี โดยทางบริษัทเอกชนจะทำการจัดเก็บใบอ้อยเอง ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้ง 2 แนวทาง
นายสมัย โสมาบุตร เกษตรกรชาวไร่อ้อย เล่าว่า ปีที่ผ่านมา ได้ใช้วิธีสางใบอ้อยด้วยรถไถเดินตาม และเผา แต่เมื่อมีการรณรงค์งดเผาอ้อย จึงได้ลงทุนซื้อเครื่องสางใบอ้อย ในราคาประมาณ 3 หมื่นบาท เพื่อใช้ในการตัดใบอ้อยในไร่อ้อยของตนเอง ซึ่งใบอ้อยเหล่านี้ยังสามารถนำไปขายให้กับโรงงาน ที่รับซื้อได้ โดยปัจจุบันโรงงานรับซื้อในราคาตันละ 1 พันบาท ซึ่งทำให้มีรายได้จากการขายใบอ้อย และยังช่วยลดปัญหาฝุ่นควันได้อีกทางหนี่งด้วย
ทั้งนี้ จังหวัดขอนแก่น ได้มีมาตรการคุมเข้มสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด โดยให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 10 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดขอนแก่น ติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ส่วนการบังคับใช้กฎหมาย ได้มีการออกประกาศห้ามการเผาไร่อ้อย เนื่องจากผิดกฎหมายสิ่งแวดล้อม หรือหากมีการเผาแล้วไปลุกลามเรือกสวนไร่นาหรือลุกลามทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาอีกด้วย