เมื่อเวลา15.00น.วันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 พ.ต.ท.วทัญญู ขาวไชยมหา สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านทองคูลินจิวเยาวราช เลขที่ 141 ถ.โพศรี ต.หมากแข้งอ.เมืองจ.อุดรธานี ว่า มีคนร้ายเป็นเข้ามาก่อเหตุ วิ่งราวสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 5 เส้น พนักงานภายในร้านได้ทำการจับตัวไว้ได้ จึงได้รุดไปตรวสอบที่เกิดเหตุพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง
ในที่เกิดเหตุเป็นร้านจำหน่ายทอง พบพนักงานหญิง ช่วยกันจับคนร้าย ในมือกำสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 5 เส้น ทราบชื่อภายหลังคือน.ส คำแพง น้อยแก้ว อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 314 ชุมชนผาสุก ถ.นเรศวร ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี จากการสอบสวน น.ส.คำแพงฯ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นหม้ายสามีตายจากมา 20 ปี ทิ้งให้เลี้ยงลูกตามลำพัง เมื่อปี 2561 ลูกสาวถูกจับติดคุกข้อหาขายยาบ้า ทิ้งให้ตนเช่าบ้านอยู่ตามลำพังคนเดียว โดยทำงานเป็นแม่บ้านอพาร์ตเมนต์ เมื่อ 3 เดือนก่อนตนถูกให้ออกจากงาน จึงมารับจ้างทำความสะอาด รับจ้างซักผ้า รีดผ้า บางวันก็มีงาน บางวันก็ไม่มีงาน ทำให้ต้องอดมื้อกินมื้อ และต้องหาเงินจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 2000 บาท ซึ่งหลังจากตกงานตนค้างค่าเช่าบ้านมา 1 เดือน
โดยเช้าวันนี้ตนไม่มีงานทำ ก็เท่ากับไม่มีเงินซื้อข้าวกิน จึงไปขอข้าวัดกิน และมีความคิดว่า ถ้าไปก่อเหตุปล้นร้านทอง จะได้ถูกตำรวจจับติดคุก มีที่อยู่ และมีข้าวกิน ไม่ต้องลำบากไปหาเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน จึงตัดสินใจเดินเข้าร้านทอง ทำทีเข้าไปซื้อทองแล้ววิ่งหลบหนี และถูกพนักงานจับส่งตำรวจ” น.ส.เบญจวรรณ เหง้าเทพ อายุ 29 ปี พนักงานร้านทอง ให้การว่า คนร้ายเดินเข้ามาเหมือนลูกค้าทั่วไป ขอดูสร้อยคอทองคำ 1 บาท ซึ่งตนอยู่คนเดียว จึงเรียกเพื่อนมายืนเป็นเพื่อน ซึ่งตนได้นำทองลงมาให้ดู 5 เส้น คนร้ายหยิบเอาสร้อยทอง ก่อนจะบอกว่า “ขอปล้นหน่อย” และเตรียมจะวิ่งหนีออกจากร้าน ตนและเพื่อนจึงรีบคว้าจับตัวเอาไว้ และถามว่ามาก่อเหตุทำไม คนร้ายบอกว่าไม่มีข้าวกิน แต่ตนได้กลิ่นบุหรี่จากตัวคนร้าย แล้วเจ้าของร้านจึงโทรแจ้งตำรวจ จึงควบคุมตัวพร้อมของมาที่โรงพักทำการสอบสวน
พ.ต.ท.วทัญญู ขาวไชยมหา สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ประชาชนสามารถจับกุมคนร้ายได้ เพราะคนร้ายกระทำผิดซึ่งหน้า แล้วทำการหยิบเอาสร้อยทองไว้ในมือ และกำลังจะวิ่งหลบหนี พนักงานจึงจับกุมตัวส่งตำรวจ และแจ้งข้อหา “วิ่งราวทรัพย์” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี ตามกฎหมาย ต่อไป
รัฐธนินท์อุดร
