เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 29 ก.ย.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายอิทธิชัย พรมพุทธ ผู้ใหญ่บ้านบ้านนาจาน หมู่ที่ 4 ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาได้มีช้างป่าประมาณ 15 ตัวลงมาจากภูในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวมาหากินตอนกลางคืน และได้ทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหายจำนวน 3 ราย โดยเฉพาะข้าวนาปีที่กำลังตั้งท้องจะออกรวงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ พร้อมกับพาผู้สื่อข่าวตรวจดูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย
นายอิทธิชัย พรมพุทธ ผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่า ช้างป่าประมาณ 15 ตัว แยกกันออกเป็น 2-3 โขลง ลงมาจากเขาภูวัวเดินย่ำทำลายพืชผลทางการเกษตร เช่น นาข้าวของชาวบ้าน 3 ราย คือนายสฤษดิ์ อองโนนยาง นาข้าวเสียหาย 2 ไร่ นายอำนวย พรมดวงดี นาข้าวเสียหาย 3 ไร่ และนายสุทิน เคนหาราช นาข้าวเสียหาย 1 ไร่ นอกนั้นก็มีต้นกล้วยน้ำหว้าที่ปลูกตามคันนาข้างทางเสียหายด้วยจำนวนหนึ่ง โดยช้างจะปลอกกินเฉพาะหยวกกล้วยอ่อน ส่วนลำต้นและเครือกล้วยจะไม่กิน และมีที่นาบางแปลงดูเหมือนว่ามีช้างป่าเพศผู้จะแยกตัวออกเดินสำรวจว่ามีอาหารการกินอะไรบ้างที่พอจะกินได้ เพราะสังเกตว่ามีเพียงรอยเท้าเดินเหยียบย่ำนาข้าวเพียงขอผ่านไปเฉยๆ โดยไม่กัดกินแม้แต่ต้นข้าวต้นเดียว แต่ให้คอยดูว่าอีกไม่นานช้างโขลงนี้ก็จะเดินลงมาร่วมกันกินโต๊ะที่นาแปลงนั้นแน่นอน ซึ่งจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งไป การมาเหยียบย่ำแค่เดินผ่าน เป็นสัญญาณบอกเหตุว่าจะต้องกลับมากินที่นาแปลงนี้แน่นอนในอีกไม่นาน 
นายอิทธิชัยเล่าต่อไปว่า หลังจากได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากชาวสวนที่นอนเฝ้าตามสวนยางพาราก็ได้แจ้งไปยังชุด ชรบ.หมู่บ้านที่มีอยู่ 30 คนและเข้าเวรกันคืนละ 10 คน ขับรถออกไปขับไล่ช้างป่าภูวัวที่ลงมาหากินตามที่นาข้าวชาวบ้านให้กลับเข้าป่าไป ถึงแม้จะมีความเสียงต่อชีวิตอยู่บ้าน แต่ด้วยความเคยชินที่อยู่กับช้างมานานก็สามารถไล่ต้อนช้างให้ออกจากพื้นที่ไปได้ แต่เมื่อเดินกลับเข้าป่าซึ่งมีคลองกั้นช้างที่มีความลึกกว่า 3 เมตรกว้างประมาณ 4 เมตร ก็เข้าไปดักซุ่มอยู่ชายป่าใกล้กับคลองแนวกั้นนั่นเอง ซึ่งดูเหมือนว่ารอโอกาสที่จะออกจากป่ากลับเข้ามาใหม่เท่านั้นเอง ที่ผ่านมาชาวบ้านผู้ที่ได้รับผลกระทบจะไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลย และถึงมีช้างเหยียบชาวสวนถึงกับเสียชีวิต ก็ได้รับเงินเยียวยาศพละ 10,000 บาทเท่านั้น จึงอยากจะร้องขอความเป็นธรรมไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตั้งมูลนิธิมาเยียวยาช่วยเหลือชาวบ้านบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในการกินต้นข้าวที่กำลังตั้งท้องของช้างป่าภูวัว จะเลือกกัดกินเฉพาะช่วงที่มีข้าวตั้งท้องเท่านั้น ส่วนอื่นๆ เช่นปลายต้นข้าวและโคนต้นข้าวช้างก็จะไม่กิน เมื่อกินในส่วนที่ข้าวตั้งท้องเข้าไปในปากเสร็จแล้ว ก็จะวางส่วนที่เหลือไว้เป็นกองๆ ไป.
ปวิณชัย บุญพิเชฐ //บึงกาฬ
