อบต.พะลาน จัดกิจกรรมโครงการปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 เนื่องในโอกาส พระราชพิธี มหามงคล
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 กรกฏาคม 2563 ว่าที่ร้อยตรีศรายุทธ เจียรมาศ นายอำเภอนาตาล เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมโครงการปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคล โดยมีนายไมตรี ป้องกัน นายกอบต.พะลาน นายสมหวัง บุญลา ปลัดอบต.พะลาน นายสันติ ป้องกัน ผอ.โรงเรียนบ้านบก นายพันมหา ทองบ่อ ผอ.สถานีพัฒนาที่ดินอุบลราชธานี นายสุเทพ ศรีวะวงค์ เกษตรอำเภอนาตาล นายสิงหนาท ขันสิงห์ สจ.นาตาล นายภูวนัย ก่อบุญ กำนันตำบลพะลาน คณะผู้บริหาร สมาชิกอบต.พะลาน พนักงานเจ้าหน้าที่อบต.พะลาน ผู้นำชุมชน จิตอาสา อสม.นักเรียนโรงเรียนบ้านบก และประชาชน ร่วมประมาณ 200 คน ร่วมใจกันปลูกหญ้าแฝก ปลูกต้นพะยูง ต้นตะเคียน ต้นลำดวน ต้นยางนา ต้นประดู่ ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำภูเม็นท์บ้านทุ่งเกลี้ยง ต.พะลาน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี
ทั้งนี้การปลูกหญ้าแฝกเป็นมาตราการในการช่วยเก็บรักษาความชุมชื้นไว้ในดินให้ได้อย่างยาวนานซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย และมีประสิทธิภาพ ได้แก่การปลูกหญ้าแฝกแถวเดียว เป็นแนวรั้วตามแนวระดับขวางความลาดเทของพื้นที่ โดยแนวรั้วหญ้าแฝกดังกล่าวจะทำหน้าที่ลดแรงปะทะ ของน้ำฝนที่ไหลบ่า ทำให้น้ำแผ่กระจายและไหลซึมผ่านแนวรั้วหญ้าแฝกซึ่งจะทำให้น้ำ มีโอกาสไหลซึมลงเก็บกักรักษาไว้ในดินได้ทั่วพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ดินมีความชุ่มชื้น นอกจากนี้หญ้าแฝกมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากหญ้าอื่นๆ โดยทั่วไปก็คือ ระบบรากฝอย ของหญ้าแฝกจะแข็งแรงและหนาแน่นสามารถซอนไซหยั่งลึกลงในดิน ตามแนวดิ่ง ได้ถึง 3 เมตร และรากจะไม่เจริญแผ่ขยายออกทางด้านกว้าง จึงไม่แย่งอาหารของพืชที่ปลูกใกล้เคียงกัน หญ้าแฝกมีรากแกนและรากแขนงอวบใหญ่จึงทำให้เกาะยึดดิน และดูดซับน้ำไว้ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อปลูกหญ้าแฝกตามแนวระดับ ขวางความลาดเทของพื้นที่แล้ว นอกจากต้นที่เจริญแตกกอ อัดกันแน่นเป็นกำแพง อยู่เหนือดินแล้ว รากของหญ้าแฝกก็จะสานกันแน่น เป็นกำแพงอยู่ในดิน ทำหน้าที่เกาะ ยึดติด และดูดซับเก็บความชื้นไว้ในดินได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ส่วนด้านนายไมตรี ป้องกัน นายกอบต.พะลาน กล่าวว่า การจัดกิจกรรมปลูกหญ้าแฝกในครั้งนี้ จะสามารถสร้างกระแสการรณรงค์ การมีส่วนร่วมของประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม จนทุกฝ่ายมีความตระหนักร่วมกันว่า เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะร่วมกันปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเปรียบเสมือนลมหายใจในการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตบนโลกให้ยั่งยืน