กาฬสินธุ์(ชมคลิป)เขื่อนลำปาวเพิ่มปริมาณส่งน้ำช่วยภาวะฝนทิ้งช่วง


เขื่อนลำปาวกาฬสินธุ์เพิ่มปริมาณการส่งน้ำช่วยเกษตรกรปลูกข้าวนาปีและการประมงที่กำลังประสบปัญหาภาวะฝนทิ้งช่วงมานานหลายสัปดาห์
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 จากการติดตามสภาอากาศในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรกำลังอยู่ในช่วงทำนาปี แต่หลายพื้นที่กำลังประสบปัญหาฝนทิ้งนานหลายสัปดาห์ แม้อยู่ในช่วงหน้าฝน ส่งผลให้พืชเริ่มขาดน้ำไปล่อเลี้ยง โดยเฉพาะต้นข้าวที่เพิ่งหว่านและปักดำเริ่มแห้งเฉา เนื่องจากขาดน้ำ อีกทั้งยังเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามสัตว์เศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่เพิ่งฟื้นจากพิษการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีปริมาณน้ำเปลี่ยนถ่ายในบ่อเลี้ยงไม่เพียงพอ ทำให้ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว ต้องเตรียมเพิ่มปริมาณการส่งน้ำจากเดิมเฉลี่ยวันละ 2.3 ล้าน ลบ.เป็น 3.45 ล้านลบ.ม.ต่อวัน เพื่อช่วยเสริมปริมาณฝนและช่วยเหลือเกษตรกรกำลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงตามความต้องการในพื้นที่
นายฤาชัย จำปาลนิล ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์เขื่อนลำปาวปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 621 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 31 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ผ่านมาทางเขื่อนได้เริ่มส่งน้ำเสริมน้ำฝนในการเพาะปลูกช่วงฤดูฝน เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรทั้งการปลูกข้าวนาปี และการประมงมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ลงระบบทั้งหมดเฉลี่ยวันละ 2.3 ล้าน ลบ.ม.และมีการวางแผนการบริหารจัดการน้ำไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2563 หรือช่วงฝนมาเต็มที่ ทั้งนี้การจาการตรวจสอบพบว่าเกษตรกรได้ลงมือทำการเกษตรโดยเฉพาะปลูกข้าวนาปีในช่วงที่มีฝนตกลงมาเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทางเขื่อนมีพื้นที่ชลประทานที่รับผิดชอบอยู่ 306,963 ไร่ ส่วนการประมง 4,000 ไร่
นายฤาชัย กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงในหลายพื้นที่ ประกอบกับตามพยากรณ์อากาศคาดหมายว่าในพื้นที่ภาคอีสานในช่วงนี้จะมีฝนตกเพียงเฉลี่ยร้อยละ 30-40 ในพื้นที่ไปจนถึงช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2563 ทำให้เกษตรกรมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นทางโครงการฯจึงได้ปรับแผนการบริหารจัดการน้ำ โดยได้เพิ่มประมาณการส่งน้ำจากเดิมเฉลี่ยวันละ 2.3 ล้าน ลบ.ม.เป็นวันละ 3.45 ล้าน ลบ.ม.เพื่อช่วยเหลือเกษตรในช่วงนี้ไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะฝนตกลงมาตามปกติ ซึ่งตามความคาดหมายในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมฝนจะตกลงมาในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วงนี้จึงอยากขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรช่วยกันทำความสะอาดคูคลองส่งน้ำและใช้น้ำร่วมกันอย่างแบ่งปั้น ประหยัดและให้เกิดคุ้มค่ามากที่สุด