เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ชาญชัย อินนราผกก.สืบสวนตำรวจภูธร จ.อุบลราชธานีพร้อมด้วยพ.ต.อ.วีระพันธ์ นาคสุข ผกก.สภ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานีนำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามอาชญากรรมและอบายมุข ชุดที่ 4กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี,ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เดชอุดมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เหล่าเสือโก้ก จับกุม นายชัยวัฒน์ จันทราช อายุ27 ปี,นายศรัญ โสภาพ อายุ 27 ปี และนายแสงไกร จิมทอง อายุ 25 ปีจับกุมตัวได้ที่บริเวณบ้านเลขที่ 32 หมู่ 11 บ้านทุ่งนกเขียน ต.โพนเมืองอ.เหล่าเสือโก๊ก จ.อุบลราชธานีขณะกำลังเตรียมจะหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านพร้อมตรวจยึดอาวุธมีดของกลาง ที่ใช้ในการก่อเหตุ 1 เล่ม แจ้งข้อหา“ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ”
ทั้งนี้เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 5 กรกฎาคม 2563 นายศรัญ โสภาพพร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ จันทราช อายุ 27 ปีและนายแสงไกร จิมทอง อายุ 25 ปีได้ใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทง นายสถาพร กันยามา อายุ 29 ปี ที่บริเวณใต้ต้นมะขามในบริเวณบ้านเลขที่ 269 หมู่13 ต.กุดประทาย อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานีหลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 iสีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 11บ้านทุ่งนกเขียน ต.โพนเมือง อ.เหล่าเสือโก้ก จ.อุบลราชธานีต่อมาช่วงค่ำวันที่ 6 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าจับกุมพร้อมด้วยอาวุธมีดปลายแหลม 1 เล่ม ที่ใช้ก่อเหตุ,รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุและหลบหนี
พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี กล่าวว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และจากการสอบถามนายศรัญ(โอ)โสภาพ อายุ 27 ปี ให้การรับสารภาพว่ามีปัญหาความขัดแย้งกันของวัยรุ่น2 หมู่บ้านโดยก่อนหน้านี้ตนเองถูกผู้ตายเตะเข้าที่ปากแทบกินข้าวไม่ได้เป็นเดือนจึงเกิดความแค้นจึงได้พาเพื่อนบุกเข้าไปในบ้านผู้ตายโดยนายแสงไกร (โทน)จิมทอง ใช้ขวดตีผู้ตายที่ศรีษะจากนั้นนายศรัญ (โอ)โสภาพ ก็ใช้มีดที่เตรียมมากระหน่ำแทงผู้ตาย โดยมีนายชัยวัฒน์ (ทีป)จันทราช
ยืนคุ้มกันหลังก่อเหตุก็แยกย้ายกันหลบหนีจนมาถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ขณะเตรียมจะหลบหนีไปประเทศสปป.ลาว ด้านอำเภอเขมราฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เดชอุดมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายโดยพ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ได้มอบเงินรางวัลนำจับ จำนวน 6,000 บาท ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่