ชื่นชม! ผช.พยาบาลและแฟนหนุ่ม ช่วยสาว 18 โดดน้ำรอดหวุดหวิด
เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 17 มีนาคม ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุจาก สนง.ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (สถานีดับเพลิง) เทศบาลนครอุดรธานี ว่ามีหญิงสาวพยายามกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ที่บริเวณหนองประจักษ์ศิลปาคม ริมฝั่งหน้าสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.อุดรธานี เขตเทศบาลนคร อุดรธานีฯ เบื้องต้นมีพลเมืองดีเข้าไปช่วยเหลือ โดยมีภาพและคลิป บางส่วนของ เพจอุดรธานี ชาเนล ถ่ายเอาไว้ได้ หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยกำลังสายตรวจ 191 หน่วยกู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุพบ น.ส.ยู นามสมมุติ อายุ 18 ปี ชาว อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี นั่งหายใจติดขัดอยู่บนม้านั่งริมฝั่ง มีอาการสำลักน้ำ และมีอาการปวดศีรษะ โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยคอยสอบถามอาการเบื้องต้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยุงตัวเดินจากริมหนองน้ำ เดินข้ามคันคูไปขึ้นรถกู้ชีพไปส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นมี นายอดิรุจ จันทรเสนา หรือ ดิว อายุ 20 ปี ชาว ต.อุ่มจาน อ.ประจักษ์ศิลปาคม พนง.ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรฯ กับแฟนสาว น.ส.จินนรินทร์ ผากงคำ หรือกอหญ้า อายุ 20 ปี ชาว อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ผู้ช่วยพยาบาล ร.พ.ศูนย์อุดรธานี และชายพลเมืองดีที่มาออกกำลังกายอีก 1 ราย เป็นพลเมืองดีมาช่วยเหลือได้ทัน
จากการสอบถาม นายดิวและ น.ส.กอหญ้าแฟนสาว ได้ให้การว่าพ ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่เลิกงานแล้วมานั่งเล่นพักผ่อนอยู่ที่สวนสาธารณะ ประมาณครึ่งชั่งโมง เห็นหญิงคนดังกล่าวยืนนิ่งอยู่ริมฝั่ง ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไร จากนั้นหญิงคนดังกล่าวก็กระโดดลงไปในน้ำ พวกตนก็วิ่งเข้าไปช่วยเหลือ โดยใช้มือคว้าหญิงคนดังกล่าวขึ้นมาจากน้ำ ระหว่างนั้นก็มีพี่ผู้ชายที่ออกกำลังกายวิ่งกลับมาช่วยอีกคน ช่วยกันกันดึงแล้วพวกตนจึงบอกให้วิ่งไปบอกเจ้าหน้าที่ในสถานีดับเพลิงเข้ามาช่วยด้วย เมื่อช่วยหญิงคนดังกล่าวขึ้นมาได้ เขาก็นั่งหอบสำลักน้ำ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นทาง จนท.จึงได้แจ้งตำรวจทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่นำ น.ส.ยู ส่งโรงพยาบาลแล้ว หลังจากนั้นได้มีพ่อ แม่ และแฟนหนุ่ม (พักอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี) ของ น.ส.ยู ได้เดินทางมาดูอาการ และให้ข้อมูลว่า น.ส.ยู มีอาการซึมเศร้า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ยู ได้กินยารักษาโรคซึมเศร้า และยาแก้ปวดร่วมกัน จากนั้นก็หายตัวไปจากบ้าน จนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นแพทย์สั่งให้นอนดูอาการ 1 คืน และแนะนำให้ญาติคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก
