ชาวบ้านปรับที่นาเตรียมเพาะปลูกพืช พบโครงกระดูกมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 1,500-2,500 ปี คาดเป็นที่ตั้งชุมชนเก่า เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรเตรียมนำชิ้นส่วนไปตรวจพิสูจน์
นางสาวทิพย์วรรณ วงศ์อัสสไพบูลย์ นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น กรมศิลปากร พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมกันเข้าตรวจพื้นที่ที่ชาวบ้านพบโครงกระดูกมนุษย์ พร้อมเครื่องปั้นดินเผา และเครื่องประดับ อยู่กลางไร่มันสำปะหลังของชาวบ้าน ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น หลังชาวบ้านไปพบขณะขุดเตรียมพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2568 ที่ผ่านมา
นางสาวทิพย์วรรณ วงศ์อัสสไพบูลย์ นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น กรมศิลปากร เปิดเผยภายตรวจสอบว่า เบื้องต้นพบ เป็นโครงกระดูกมนุษย์ ขนาดความยาว 140 เซ็นติเมตร ลักษณะเหยียดตรง หันศีรษะไปทางทิศตะวันตก คล้ายการฝังศพ สภาพชิ้นส่วนโครงกระดูกส่วนใหญ่เสียหาย เนื่องจากอยู่ในร่องน้ำ จึงทำให้ถูกเซาะกร่อน เหลือเพียงกระดูกที่มีความแข็งแรง อย่างกะโหลกศีรษะและฟันอยู่ครบ คาดอายุประมาณ 1,500-2,500 ปี หรือยุคก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณโดยรอบยังพบชิ้นส่วนเครื่องปั้นดินเผาแตกกระจายอยู่ทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บชิ้นส่วนไปตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบริเวณพื้นที่พบเป็นเนินสูง อยู่ใกล้ลำห้วย สันนิษฐานเป็นที่ตั้งชุมชนและแหล่งที่อยู่อาศัยของคนในยุค 1,500-2,500 ปี หรือยุคก่อนประวัติศาสตร์ และอยู่ไม่ห่างจากแหล่งโบราณคดีโนนนกทา อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นยุคก่อนประวัติศาสต์ ที่มีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ จำนวนมาก อนาคตหากที่นี่จะขุดค้นเพิ่มเติม หรือเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ของคนในพื้นที่ จะต้องมีการปรึกษาหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
ด้านนายอาทิตย์ โคตรโยธี ผู้ที่มาพบเห็นโครงกระดูกมนุษย์ เป็นคนแรก เล่าว่า ขณะกำลังไถเตรียมแปลงเพื่อปลูกมันสำปะหลัง ตนเองได้พบวัตถุบางอย่าง ในจุดที่มีลักษณะเป็นร่องน้ำ หรือ ชาวบ้านเรียกว่า “โสก” ไม่สามารถใช้รถไถพรวนได้ จึงนำจอบมาขุดปรับพื้นที่ และสังเกตุเห็นฟันมนุษย์ 2 ซี่ จึงใช้มือขุดและปัดเศษดินออก และรู้สึกเหมือนมีคนดึงมือให้ขุดต่อ จนพบเป็นกะโหลกศีรษะมนุษย์ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ