ทั่วไทย – กมธ.ปปง. พร้อมส่งร่าง พ.ร.บ.ป้องกันอาชญากรรมออนไลน์

กมธ.ปปง. พร้อมส่งร่าง พ.ร.บ.ป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ฯ ป้อง-ปราบโจรไซเบอร์ เข้าสภาฯเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน

กมธ.ปปง.ฯ พร้อมส่งร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เข้าสภาฯ เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี เผยเน้น องค์ประกอบความผิด ต้องชัดเจนพร้อมติดดาบสถาบันการเงิน-ปปง.-ตำรวจ ทั้งคุ้มครองสิทธิ์ คืนเงินและดำเนินคดีอาญาได้ทันที

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ที่ จ.เลย นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะ กมธ.การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด ส.ส.เลย เขต 1 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการติดตามปัญหาประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพในโลกออนไลน์ พบว่ามีประชาชนตกเป็นเหยื่อจากการกระทำความผิดที่ใช้ระบบเทคโนโลยี เป็นจำนวนมาก คณะ กมธ.ปปง.ฯ ได้ติดตามสถานการณ์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการฟอกเงินที่มาจากการกระทำความผิดในลักษณะนี้มาต่อเนื่อง และทางรัฐบาลได้มีการตรา พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ขึ้น เพื่อคุ้มครองประชาชนที่ถูกหลอกลวง ผ่านโทรศัพท์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 66 เป็นต้นมา

“ตามที่ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว ได้ยกร่างและนำมาบังคับใช้เพื่อเป็นมาตรการในการป้องกันอาชญากรรมให้หมดไป โดยเร็วเป็นกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน บทบัญญัติใน พ.ร.ก. นั้น จึงยังไม่ได้ครอบคลุมถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ทั้งหมด ตลอดจนปัญหาที่เกิดขึ้นต่อสถาบันการเงินที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยหลักจะบังคับใช้ได้เฉพาะธนาคารพาณิชย์เท่านั้น จึงทำให้ผู้ประกอบธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ สำหรับบริการบางประเภท (เช่น การส่งลิงค์ผ่าน SMS) ผู้ให้บริการทางการเงินโดยคลิปโทเคอร์เรนซี ผู้ให้บริการระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต และการติดต่อสื่อสารทางเทคโนโลยี อื่น ๆ อีกจำนวนมาก ยังไม่ได้ถูกบังคับใช้ให้ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉบับนี้อย่างครบถ้วน ที่ผ่านมาคณะ กมธ.ปปง.ฯ จึงได้ตั้ง คณะอนุ กมธ. ขึ้น 2 คณะ ประกอบด้วย 1.คณะอนุ กมธ.ศึกษาการบังคับใช้และแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เมื่อ 17 ม.ค. 67 และ 2.คณะอนุ กมธ.ติดตามและศึกษาคดีฉ้อโกง บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) เมื่อ 25 ต.ค. 66 ทำให้คณะ กมธ. สามารถพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. …. แล้วเสร็จ และพร้อมจะนำเสนอต่อสภาฯ เป็นการต่อไปคาดภายหลังปีใหม่

นายเลิศศักดิ์ ระบุว่า สาระสำคัญใน ร่าง พ.ร.บ. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. …. สาระสำคัญจำแนกออกเป็น 5 ประเด็น คือ 1. กำหนดองค์ประกอบของการกระทำที่เป็นความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและกำหนดความหมายของสถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการติดต่อสื่อสารให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันมากยิ่งขึ้นในการปฏิบัติตามกฎหมาย 2. กำหนดให้มีบัญชีที่ถูกกำหนด (บัญชีที่ถูกใช้โอนหรือรับโอนเงิน) เพื่อให้สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจ และผู้ให้บริการ มีความชัดเจนในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินกับบัญชีที่ถูกกำหนดดังกล่าวได้ทันที 3. กำหนดมาตรการในกรณีที่สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจ หรือผู้ให้บริการพบเหตุอันควรสงสัย หรือในกรณีที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย สามารถปฏิเสธ ระงับ หรือยุติการทำธุรกรรมกับบัญชีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกรณีที่ถือว่าเป็นบัญชีที่ถูกกำหนด ก็จะสามารถโอนเงินจากบัญชีที่ถูกกำหนดกลับคืนไปยังบัญชีของผู้เสียหายได้อย่างทันท่วงที 4. กำหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดนโยบาย และแนวทางที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และให้มีสำนักงานตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อทำหน้าที่ในการคืนเงิน หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้กับผู้เสียหาย 5. กำหนดกระบวนงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน หรือทรัพย์สินเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ คืนเงิน หรือทรัพย์สินให้กับผู้เสียหาย ทำให้เกิดผลดีในการคืนเงินหรือทรัพย์สิน ให้กับผู้เสียหายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น