วิเชียร “เย้ย” พรรคส้ม “อ่อน” อ่านงบไม่กระจ่าง กล่าวหาว่าถลุงเงินสะสมแล้วชิงลาออก
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เวลา14.30 น. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย จ.อุดรธานี นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.อุดรธานี 4 สมัย นายวิเชียร ขาวขำ อดีตนายก อบจ.อุดรธานี อดีต ส.ส.7 สมัย ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงนายศราวุธฯ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงต่อประชาชน และตอบโต้ การปราศรัยหาเสียงของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หน.พรรคประชาชน และนายชัยธวัช ตุลาธน อดีต หน.พรรคก้าวไกล ผู้ช่วยหาเสียงนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี เบอร์ 1 พรรคประชาชน ในหลายเวทีปราศรัยในพื้นที่ จ.อุดรธานี
นายวิเชียร ขาวขำ อดีตนายก อบจ.อุดรธานี อดีต ส.ส.7 สมัย ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงนายศราวุธฯ แถลงว่า ปัญหาสุขภาพได้วางมือทางการเมือง สนับสนุน “ป็อป ศราวุธ”เป็นนายก อบจ.อุดรธานี ในการรณรงค์หาเสียงนายก อบจ.อุดรธานี นายชัยธวัช ตุลาธน อดีต หน.พรรคก้าวไกล ได้มาปราศรัยหาเสียงพาดพิงตนเองได้รับความเสียหาย ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความเข้าใจผิด โดยได้นำข้อบัญญัติงบประมาณ อบจ.อุดรธานี 2568 ขึ้นไปบนเวทีประกอบการปราศรัย ด้วยการเปิดหน้าคำแถลงนโยบาย กล่าวถึงเงินสะสมวงเงิน 1,557.8 ล้านบาท กล่าวหาตนถลุงงบเงินสะสม 1,500 ล้านบาท หมดภายใน 2 เดือน แล้วทิ้งทวนลาออกไม่ไม่ลงสมัครต่อ งบประมาณนี้สภา อบจ.อุดรธานี ผ่านความเห็นชอบ 1 ส.ค.67 แล้วผลลาออก 1 ตุลาคม 2567
“ เรื่องมีอยู่ว่านายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หน.พรรคประชาชน ได้เคยปราศรัยหาเสียงไว้ว่า อบจ.อุดรธานี มีงบประมาณปีละ 1,200 ล้านบาท และมีเงินสะสมถึง 1,500 ล้านบาท สามารถนำเงินสะสมมาใช้แผนงานเร่งด่วนที่หาเสียงได้ ผมเห็นว่าไม่เป็นความจริงก็ชี้แจงด่วน เขียนด้วยลายมือผมเองชี้แจงประชาชน ว่าไม่มีเงินสะสมที่นำมาใช้ได้ตามที่อ้าง ความจริงเงินสะสมมีสภาพติดลบ 80 ล้านบาท เพราะนำเงินไปซื้อวัคซีนช่วงโควิด-19 รวม 120 ล้านบาท นายชัยธวัชฯ ได้นำมาปราศรัยขยายความกล่าวหาผม ว่าถลุงเงินสะสมจนหมดทิ้งทวนก่อนลาออก และยังปราศรัยต่ออีกในหลายเวที ”
นายวิเชียร ขาวขำ อดีตนายก อบจ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงคำชี้แจงงบประมาณ ที่ระบุว่าเงินสะสม 1557.8 ล้านบาท เป็นตัวเลขในระบบของบัญชี ซึ่งแยกออกได้ในหลายส่วน 1.เป็นบัญชีทรัพย์สินและค่าเสื่อมราคาส่วนใหญ่, 2.เงินสะสมปกติราว 10 ล้านบาท, 3.เงินสะสมสาธารณะภัย 10 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณปีนั้นคือราว 120 ล้านบาท ก็สะสมกันมาตั้งแต่มี อบจ.อุดรธานี ไม่เคยนำมาใช้จนเกิดโควิด-19 ได้ขอสภาฯมาซื้อวัคซีน “ชิโนฟาร์ม” 100 ล้านบาท ต่อมาใช้งบอื่นซื้อวัคซีน “มอเดอน่า” 25 ล้านบาท หลังโควิด-19 ก็มีเงินสะสมเพิ่มขึ้นที่ติดลบ 100 ล้าน ก็เหลือ 80 ล้าน และ 4.เคยมีกองทุนเงินสำรองเงินสะสม แต่ตอนนี้ถูกยกเลิกไปแล้ว หากจะเอาเงินมาใช้ก็ต้องขายทรัพย์สิน รวมทั้งที่ดินอาคาร สนง.อบจ.อุดรธานี
อดีตนายก อบจ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 การกล่าวโจมตีการบริหารงานตน ในช่วงเป็นนายก อบจ.อุดรธานี 12 ปี กรณีการปล่อยพันธุ์ปลาในแหล่งน้ำ มีกระบวนการขั้นตอนถูกต้อง ได้รับการตรวจสอบจากประมงทุกอำเภอ ตัวแทนประชาชนทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ พันธุ์ปลายที่ถูกปล่อยได้เติบโตแพร่พันธุ์ ให้ประชาชนได้ทำกิจกรรม หาเงินเข้าหมู่บ้าน และจับกินเป็นอาหาร ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของคนในชนบทอีสาน ซึ่งการสำรวจความคิดเห็นของหน่วยงานรัฐ ระบุว่าเป็นโครงการสร้างความพึงพอใจกับประชาชนมากกวส่า 90 เปอร์เซ็นต์ หากพรรคประชาชนไม่ต้องการทำโครงการนี้ ก็ขอให้ประกาศไปเลยว่าจะไม่ทำ
“ เป็น ส.ส.มี 7 สมัย เป็น กมธ.งบประมาณนับไม่ถ้วน เป็นนายก อบจ.อุดรธานี 12 ปี ไม่เคยผิดพลาดเรื่องของตัวเลข คุณชัยธวัช อดีต หน.พรรคก้าวไกล คุณนายณัฐพงษ์ หน.พรรคประชาชน เป็นคนรุ่นใหม่มีความรู้ความสามารถ ดีกรีการศึกษาไม่ธรรมดา น่ายินดีและชื่นชม แต่ยังคงต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพียงเฉพาะการจัดงบประมาณ อบจ. ยังไม่กระจ่างยังถือว่าอ่อนด้อย ต้องค่อยๆศึกษาหาความรู้ กฎหมาย, ระเบียบ, การทำงบ และอื่นๆ ขณะที่การบริหารประเทศ มีรายละเอียดมากมายกว่านี้เยอะ คุณยังอายุน้อยยังมีเวลาช่วยบ้านเมือง โดยเรื่องนี้จะขอความเป็นธรรม ด้วยการร้องเรียน กกต.กรณีการใส่ร้ายป้าย และแจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจ หากจะออกมาชี้แจงยอมรับความผิด ต่อประชาชนก็พร้อมจะรับฟัง ”