อุดรธานี – ขี้ยาคลั่งเผา จยย.ญาติประชดแม่ไม่ให้เงิน ตำรวจ-กู้ภัยช่วยกันเข้าล็อคคอจับไว้ได้ 

ขี้ยาคลั่งเผา จยย.ญาติประชดแม่ไม่ให้เงิน ตำรวจ-กู้ภัยช่วยกันเข้าล็อคคอจับไว้ได้

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 15 ตุลาคม ขณะที่ ร.ต.อ.บัญชา สาระปัญญา รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าตำรวจชุมชนตำบลสามพร้าว นำกำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนคลุ้มคลั่งยาแล้วเผารถจักรยานยนต์ เหตุเกิดที่บ้านเช่า ไม่มีเลขที่ ติดกับโรงน้ำแข็งบ้านสามพร้าว ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรฯ หลังจากได้รับแจ้ง จึงรีบนำกำลังไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสวน พบนายเอกณัฐ ขันโททอง หรือก้อง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 244 หมู่ 2 ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี ยืนถือสายยางฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้ไหม้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงินบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อยู่สนามหญ้าหน้าบ้าน ซึ่งขณะนั้นรถได้ถูกไฟไหม้ไปจนเสียหายหมดไปทั้งคัน ทราบว่ารถดังกล่าวเป็นของนายโอ๋ ญาตินายเอกณัฐ เมื่อเห็น จนท.ตำรวจ นายเอกณัฐ ก็แสดงอาการคลุ้มคลั่งร้องโวยวายใส่ จากนั้น จนท.ตำรวจพร้อมด้วยอาสากู้ภัยช่วยกันเข้าชาร์ทและควบคุมตัวเอาไว้ได้

จากการสอบสวนเบื้องต้นนางนงค์ศรี ขันโททอง อายุ 63 ปี แม่นายเอกณัฐ ให้การว่า นายเอกรัฐเป็นลูกคนเดียว อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้กับภรรยาและลูก ลูกชายไม่ทำงานและเสพยาบ้า จะเข้าไปขอเงินตนที่บ้านวันละ 100-200 บาท ไปซื้อน้ำมันเติมรถ จยย.แล้วขับขี่รอบหมู่บ้าน ถ้าไม่ให้ก็จะไปเติมเองแล้วติดหนี้ไว้ ตนเกรงว่าลูกชายจะเมายาบ้าแล้วฆ่าลูกสะใภ้และหลาน จึงได้พาหนีไปอยู่ที่บ้านกับตนได้ 3-4 ปีแล้ว ปล่อยให้ลูกชายอยู่ที่บ้านสวนคนเดียว แต่ลูกชายก็พาเพื่อนมานอนเสพยาบ้าด้วยกัน ถ้าวันไหนตนมาพบเห็นก็จะด่าและไล่เพื่อนลูกหนี วันนี้ขณะที่ตนมาเก็บดอกโสนก็ถูกลูกชายเข้าด่าไม่ให้เก็บ ตนจึงเดินหนีกลับบ้านไป

“ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ได้โทรไปบอกตนว่าลูกชายเผาสิ่งของหรืออะไร ให้มาดู ในใจคิดว่าคงจะเผาเครื่องตัดหญ้า จึงโทรแจ้งตำรวจ แต่พอมาถึงกลายเป็นเผารถจักรยานยนต์ของญาติ ก็อยากให้ตำรวจจับลูกขังไว้ ให้กินยาบำบัด เพื่อดัดสันดานลูกชาย”

ส่วนนายมาโนช นาสุรินทร์ อายุ 63 ปี เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า บ้านตนโดนน้ำท่วม จึงมาเช่าบ้านนางนงค์ศรี แม่ของนายเอกรัฐได้ประมาณ 1 เดือน บ้านตนอยู่บริเวณด้านหน้าติดถนน เปิดเป็นร้านขายของชำ ส่วนบ้านนายเอกณัฐอยู่ด้านหลัง แต่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ก่อนเกิดเหตุเห็นนายเอกณัฐขับขี่รถ จยย.สะพายเครื่องตัดหญ้าวนเข้าออกบ้านหลายรอบ แล้วก็เห็นควันไฟในสวนใกล้กับบ้านนายเอกณัฐ จึงได้ให้ภรรยาโทรแจ้งนายนงค์ศรี ให้มาดู เกรงว่าจะลามไปโดนบ้านเรือนคนอื่น ก่อนหน้านี้เคยเห็นนายเอกณัฐ เมายาคลุ้มคลั่งส่งเสียงดังประจำ แต่วันนี้หนักที่สุดพร้อมกับเผารถ จยย.ซึ่งก็ไม่ทราบเป็นรถของใคร

ร.ต.อ.บัญชา สาระปัญญา รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อได้รับแจ้ง ได้มาที่เกิดเหตุ ก็พบนายเอกณัฐ หรือก้อง กำลังเผาจักรยานยนต์ จึงเข้าไปสอบถาม ซึ่งนายก้อง ก็บอกว่าเป็นรถของนายโอ๋ ที่เป็นญาติกัน สาเหตุที่เผาก็เพราะโกรธแม่ ที่ขอเงินไปซื้อน้ำมันมาใส่เครื่องตัดหญ้าแล้วแม่ไม่ให้ และโมโหที่แม่ด่านายโอ๋ด้วย จึงเอารถจักรยานยนต์นายโอ๋มาเผาประชด และสารภาพว่าเสพยาบ้า 1 เม็ดราคา 50 บาท แบ่งเสพกับนายโอ๋ ส่วนนายโอ๋เจ้าของรถหลบหนีไปแล้ว ดังนั้นทาง จนท.ตำรวจจึงแจ้งหา “วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น” และ เสพยาเสพติดหรือยาบ้า โดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวนายเอกณัฐไปโรงพักเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย