นักล่ารังต่อหัวเสือปีนต้นไม้หวังเก็บรังต่อมาขาย แต่โชคร้ายต่อแตกรังรุมต่อยจะรูดต้นไม้หนี ขาขวาไปติดเอากิ่งไม้หนีไม่ได้ ถูกต่อรุมต่อยจนหมดแรงโชคยังดีใกล้ถนนชาวบ้านผ่านมาเจอแจ้งผู้สื่อข่าวเรียกกู้ภัยมาช่วยทัน เลยรอดตายหวุดหวิด
เมื่อเวลา 12:00 น วันที่ 8 ต.ค.หน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไลฯจุดบึงโขงหลง รับแจ้งมีผู้ติดอยู่บนกิ่งไม้ใกล้เส้นทางไปวัดบ้านคำสมบูรณ์ ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบว่ามีชายติดอยู่บนต้นไม้ยูคาลิปตัส ที่สูงประมาณ 20 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 ซม. แต่ช่วงที่ติดค้างอยู่ประมาณ 8 เมตร ทราบชื่อต่อมา นายสงกรานต์หรือจ่อย เหล่าพักสาน อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 168 หมู่ 1 บ้านดอนกลาง ตำบลบึงโขงหลง ลักษณะท่าทางอ่อนแรงโดยมีตัวต่อหัวเสือหลายสิบตัวบินวนเวียนอยู่บนศีรษะและรอบๆตัว เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที หน่วยกู้ภัยมาถึงแต่เนื่องจากอุปกรณ์ช่วยเหลือคนติดอยู่ที่สูงไม่มีจึงได้วิ่งไปตัดเอาลำไม้ไผ่ที่อยู่ใกล้ๆมาช่วย โดยผู้ที่ติดค้างอยู่ก็กระวนกระวายใจเนื่องจากว่ามีตัวต่อบินวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ทางผู้สื่อข่าวและทีมงานกู้ภัยก็พยายามเตือนสติว่าให้อยู่นิ่งๆถ้าไม่นิ่งแล้วตัวต่อก็จะยิ่งรุมต่อยเอา แต่ผู้ที่ประสบเหตุก็ไม่สบายใจได้ตะโกนลงมาให้พยายามหาทางช่วยเหลือโดยที่ให้ส่งมีดขึ้นไปฟันกิ่งไม้ที่ขาตัวเองติดอยู่เนื่องจากว่าถูกน้ำหนักตัวที่นั่งทับขาข้างขวาหลังจากรีบรูดต้นไม้หนีตัวต่อ จึงไม่สามารถยกขาข้างขวาที่ติดอยู่กิ่งไม้ออกได้ โดยให้ทีมงานกู้ภัยส่งมีดที่มัดติดปลายลำไม้ไผ่ขึ้นไปให้เพื่อจะตัดกิ่งไม้แต่กว่าที่จะทำได้ตามคำขอก็เวลาผ่านไปด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากส่งมีดขึ้นไปก็น้ำหนักทั้งไม้ไผ่ทั้งมีดก็ถ่วงน้ำหนักมีดก็หลุดล่วง กู้ภัยประมาณ 3 คนแต่พยายามช่วยเหลือสุดความสามารถสุดท้ายก็สามารถส่งมีดถึงมือผู้ประสบเหตุได้ จึงได้ตัดกิ่งไม้ออกและขาขวาที่ติดอยู่ก็สามารถหลุดออกจากกิ่งไม้ที่ตัวเองนั่งทับอยู่ได้ จากนั้นทีมงานหน่วยกู้ภัยได้พยายามใช้ลำไม้ไผ่ดันก้นและพยุงลำตัวผู้ประสบเหตุให้ค่อยๆรูดตัวลงมากับต้นไม้ยูคาลิปตัสลงถึงพื้นได้สำเร็จ ใช้เวลาอยู่ประมาณ 20 นาที จากนั้นได้ตะกุยตะกายลงในลำธารเพื่อระบายความร้อนออกจากตัวเนื่องจากถูกต่อยจนพิษเหล็กในบวมปวดแสบปวดร้อน แล้วรีบนำส่ง รพ.บึงโขงหลงทำการรักษา
นายสงกรานต์หรือจ่อย นักล่ารังต่อหัวเสือเล่าถึงนาทีระทึกหวิดเป็นผีเฝ้าต้นยู่คาลิปตัสว่า ช่วงแรกที่เดินไปดูรังต่อหัวเสือนั้น ทีแรกก็ลังเลอยู่ว่าจะขึ้นเอารังต่อนี้หรือไม่ เหตุเพราะว่าเมื่อคืนผ่านมาตัวเองนอนไม่หลับ เนื่องจากปวดฟัน เช้ามาก็กินข้าวไม่ได้ ออกไปชวนเพื่อนที่เคยไปด้วยกันก็ไม่อยู่บ้าน เงินทองก็ไม่มีจะใช้ จึงติดสิ้นใจปีนไปเอารังต่อรังนี้ ขืนปล่อยไว้คนอื่นมาเจอก็จะเอาไปกินก่อน ระหว่างปีนขึ้นไปถึงกิ่งไม้ที่รังต่อห้อยอยู่จึงเอื้อมมือไปหัก ซึ่งมีความยาวประมาณ 120 ซม.จากนั้นก็โยนลงมาข้างล่าง แม่ต่อจึงไต่มาต่อยที่แขน เนื่องจากตนใช้ถุงปุ๋ยพันแขนเอาไว้ แต่ถุงปุ๋ยรุดจึงเกิดช่องว่างให้แม่ต่อมารุมต่อย ด้วยความเจ็บปวดจึงรูดต้นไม้เพื่อจะหนีลงมาด้านล่างได้เพียง 2 เมตร แต่ขาด้านขวาดันไปติดกิ่งไม้ ถูกน้ำหนักตัวเองมาทับซ้ำ จะยกลำตัวขึ้นเพื่อให้ขาหลุดก็ไม่มีแรง ได้แต่กอดต้นไม้ไว้แน่น แม่ต่อก็ยังรุมต่อยจนระบมไปหมด เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที่ จะหมดแรงทั้งจะเป็นลม จึงเปิดหมวกกันน็อคออกหายใจ คนขี่รถผ่านไปมาจึงเรียกให้ช่วยดังกล่าว
นายสงกรานต์หรือจ่อยกล่าวต่อไปว่า อยากจะฝากเตือนผู้ที่คิดจะล่ารังต่อหัวเสือต้องมีสติและมีเพื่อนไปด้วยต้องติดอุปกรณ์เซฟตี้ทั้งชุดเพื่อป้องกันต่อต่อย ส่วนราคาตัวต่อนั้นถ้าหากขายทั้งรังก็จะขายกิโลละ 500 บาทแต่ถ้าหากจะแกะออกจากรังเป็นตัวแล้วขายจะได้กิโลกรัมละประมาณ 7-800 บาท ซึ่งก็ถือว่าได้ราคาดีและก็ต้องเก็บรังต่อในช่วงนี้ ถ้าหากว่าเลยออกพรรษาไปตัวต่อจะแก่ขายไม่ได้ คือจะนำไปทำอารหารหรือประกอบอาหารไม่ได้นั่นเอง .