ชาวบ้านอยู่ยากขึ้นทุกวันเดือดร้อนไปทั่ว เพราะโจรชุมยิ่งกว่ายุง วอนเจ้าหน้าที่ช่วยติดตามหัวขโมยมาดำเนินคดีไห้ได้
วันที่ 26 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณี นางคำกอง ตุลาชาติ อายุ 58 เลขที่ 49 หมู่17 บ้านคลองสาร ต.พระบาทนาสิงห์ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย เล่าว่าเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ของวันนี้ (23 มี.ค.67) นายบุญทัน โพนข่า อายุ 67 ปี สามีขับ จยย.ออกจากหมู่บ้านเพื่อจะไปดูสัตว์เลี่ยงที่กระท่อมในสวนยางพารา ก่อนถึงกระท่อมประมาณ 50 พบชายต้องสงสัยไม่สวมเสื้อวิ่งออกจากรถเข็น ที่จอดห่างจากกระท่อมออกไปประมาณ 15 เมตร จึงรีบเข้าไปดู พบรถเข็น บรรทุกผานรถไถนา ตีนตะขาบรถไถนา และคราดรถไถนา จอดอยู่ 1 คัน จากนั้นได้ขึ้นไปตรวจสอบบนกระท่อม พบว่าเก็บอุปกรณ์ทำการเกษตรที่ตนเก็บไว้บนกระท่อม ได้หายไปและมาพบบรรทุกอยู่ในรถเข็น ส่วนหัวขโมยได้วิ่งหลบหนี แต่จำได้ว่าเป็นคนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน
จากนั้น นางคำกองฯ จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.รัตนวาปี และพนักงานสอบสวน สภ.รัตนวาปี ได้เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ ช่วงเวลาที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ได้มีนายฉวี รีระบุตร อายุ 72 ปี ราษฎรหมู่บ้านเดียวกัน ได้มาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ตร.ว่า ที่บ้านของนายฉวีฯ ตีนตะขาบรถไถนา ผานรถไถนา และรถเข็นได้หายไป จึงได้เดินทางมาดูพบว่ารถเข็นของตนที่หายไปนั้น ที่ถูกหัวขโมยนำมาก่อเหตุ แต่อุปกรณ์การเกษตรที่ถูกขโมยมาไม่พบ จากนั้นได้มีนายสมพร สอนอาจ อายุ 43 ปี เป็นราษฎรหมู่บ้านเดียวกันได้เข้ามาแจ้งความเพิ่มอีก ว่าถูกหัวขโมยเข้าไปขโมยขี้ยางก้อนถ้วยไปกว่า 70 ต้น และมีนางมานิตย์ บุญเสริฐ อายุ 60 ปี ราษฎรหมู่บ้านเดียวกัน ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ตีนตะขาบรถไถ ผานรถไถนา คาดรถไถนา และรถเข็น ของตนก็ได้หายไปทั้งหมดเช่นกัน ต่อจากนั้นได้มีนายอ่อนศรี ปรีชา อายุ 70 ปี เป็นราษฎรหมู่บ้านเดียวกัน ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ว่า ที่โรงสีของตน ได้ถูกงัดมีเอาทรัพย์สินไป คือ พระเครื่อง 2 องค์ เงินสด จำนวน 500 บาทหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งไปยังร้านรับชื้อของเก่าในพื้นที่ หรือพื้นที่ใกล้เคียง ร้านใดได้รับชื้ออุปกรณ์การเกษตรดังกล่าว ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนวาปีโดยเร่งด่วน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด เพื่อจะได้ติดตามหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป:ฤาษีลภ-โภควินทร์ จังหวัดหนองคาย