เกษตรกรในพื้นที่ตำบลท่ากระเสริม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น หันมารับจากปลูกสควอชเพื่อขายเมล็ดให้กับบริษัทเอกชน แทนการปลูกข้าวนาปรัง หลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำและราคาข้าวตกต่ำ โดยแกะเอาเมล็ดขายกิโลกรัมละ 950 บาท สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ในการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวเพียง 1 เที่ยว
วันที่ 25 มีนาคม 2567 เกษตรกรผู้เพาะปลูกลูกสควอช บ้านท่ากระเสริม หมู่ที่ 5 ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ช่วยกันนำลูกสควอชที่โตและสุกเหลืองได้ที่มาผ่าครึ่ง ก่อนที่จะคว้านเอาเฉพาะส่วนเมล็ดที่อยู่ข้างในออกมา แล้วนำไปล้างทำความสะอาดให้เหลือเฉพาะเมล็ดที่ไม่มีเนื้อเยื้อของลูกสควอชที่มีลักษณะเป็นเหมือกสีเหลืองติดอยู่ เมื่อล้างดีแล้วก็จะนำไปตากแดดให้แห้ง ก่อนจะนำไปเข้าสู่กระบวนการจัดเก็บเพื่อเตรียมไว้ส่งขายให้กับบริษัทเอกชนที่เป็นผู้เข้ามาส่งเสริม สนับสนุน และลงทุนให้ชาวบ้านเพาะปลูก โดยรับซื้อในราคาสูงถึง 950 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ชาวบ้านที่นี่มีอาชีพและรายได้ในช่วงที่ว่างเว้นจากฤดูกาลทำข้าวนาปี และยังมีรายได้สูงกว่าการปลูกข้าวนาปรังไว้ขายหลายเท่าตัว
นางยุพิน พิสุทธิ์เลิศมานะ อายุ 53 ปี เกษตรกรผู้ปลูกลูกสควอช บ้านท่ากระเสริม หมู่ 5 ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เล่าว่า ก่อนที่ตนเองจะหันมาสนใจเพาะปลูกลูกสควอชเพื่อขายเมล็ด ในช่วงหลังฤดูกาลทำข้าวนาปีก็จะทำข้าวนาปรังต่อ แต่ระยะหลังมาพบว่า ราคาข้าวไม่ดี ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน อีกทั้งยังประสบปัญหาเรื่องขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูกข้าวนาปรัง กระทั้งได้มีบริษัทเอกชนเข้ามาส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาเพาะปลูกพืชอายุสั้น ที่ใช้เวลาเพาะปลูกไม่นาน แต่สามารถสร้างรายได้ได้มากกว่าการทำนาปรัง ตนเองจึงได้แบ่งที่นาที่มีอยู่จำนวนหนึ่ง มาใช้เป็นแปลงปลูกสควอช โดยบริษัทเอกชน เป็นผู้ออกค่าเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยบำรุงให้ก่อน และคอยมาติดตามให้ความรู้วิธีการปลูก ซึ่งในที่นาประมาณ 3 ไร่ ตนเองได้ปลูกสควอช จำนวน 7,000 เมล็ด โดยเที่ยวนี้ได้เริ่มเพาะปลูกในช่วงเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา และเก็บเกี่ยวในช่วงเดือน มี.ค. ซึ่งปีนี้ผลผลิตที่ได้ค่อนข้างดี คาดว่าหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งหมด เมื่อหักลบค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ยบำรุงแล้ว ตนเองจะมีรายได้จากการขายเมล็ดสควอชในรอบนี้ไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท
นางยุพิน กล่าวอีกว่า ตอนนี้ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ท่ากระเสริม เริ่มหันมาเพาะปลูกสควอชกันมากขึ้น เนื่องจากรายได้ดีว่าการทำข้าวนาปรังหลายเท่าตัว ซึ่งราคาข้าวมีความไม่แน่นอน แต่สำหรับการปลูกสควอชขายเมล็ดนั้นหากดูแลเอาใจใส่อย่างดี พอเสร็จสิ้นฤดูการเก็บเกี่ยวและขายเมล็ดได้แล้ว ชาวบ้านจะมีเงินแสนอยู่ในมืออย่างแน่นอน และเงินส่วนนี้ก็สามารถนำไปเป็นทุนในการทำนาปีได้อีกด้วย
สำหรับสควอช หมายถึงพืช 4 สปีชีส์ในสกุล Cucurbita ได้แก่ C. maxima C. mixta C. moschata และ C. pepo ซึ่งจะรวมฟักทองอเมริกัน ส่วนใหญ่ acorn squash ซัมเมอร์สควอช และ ซุกคินีในอเมริกาเหนือ สควอชแบ่งอย่างกว้าง ๆ เป็น ซัมเมอร์สควอชกับวินเทอร์สควอช ขึ้นกับระยะเวลาที่เก็บเกี่ยวผลผลิต สควอชที่รู้จักกันดีรวมทั้งฟักทองอเมริกันและซุกคินี สควอชขนาดใหญ่มาจาก Cucurbita maxima