เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 24 มกราคม ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี นายวันชัย คงเกษม ผวจ.อุดรธานี พล.ต.ต.สรรธาน อินทรจักร ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พร้อมด้วยพ.อ.ธนาวีร์ วิชาชัย รอง ผอ.กอ.รมน.จ.อุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าว ทลายแก๊งรับจำนำรถใน จ.อุดรธานี จำนวน 4 เครือข่าย มีการตรวจยึดรถยนต์ 33 คัน รถจักรยานยนต์ 11 คัน มูลค่า 23 ล้านบาท
นายวันชัย คงเกษม ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยฝ่ายปกครองและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินงานปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง ซึ่งทางจังหวัดอุดรธานีได้มีการประชาสัมพันธ์รับลงทะเบียนประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบ ขอรับการช่วยเหลือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ พร้อมกับประสานงานกับตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ให้จับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
พล.ต.ต.สันธาน อินทรจักร ผบก.ภ.จ.อุดรธานี กล่าวว่า ด้วยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ ระดมกวาดล้าง จับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากฎหมายกำหนด กลุ่มเจ้าหนี้ที่มีพฤติการณ์ใช้ความรุนแรง ในการทวงหนี้ และการรับจำนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมาย โดยให้ผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ตำรวจภูธรภาค 4 ได้ดำเนินการภายใต้ยุทธการ “ไล่ล่านายทุนเถื่อน”
“ครั้งที่ 1 โดยได้ทำการปิดล้อม ตรวจค้น ยึด อายัดทรัพย์สินกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบ และเพื่อค้นหาหลักฐาน ตามเรื่องร้องเรียนในพื้นที่ จ.อุดรธานี จำนวน 4 เครือข่าย ดังนี้ จับกุมเครือข่ายกลุ่มเงินกู้นอกระบบ (รับจำนำรถยนต์) ผู้ต้องหา 4 ราย ตรวจยึดรถยนต์ 33 คัน มูลค่า 23,000,000 บาท ยึดรถจักรยานยนต์ 11 คัน มูลค่า 220,000 บาท ดำเนินคดีข้อหา “ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า กลุ่มนายทุนใช้รูปแบบในการปล่อยเงินกู้ ในหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือการจำนำรถเป็นทรัพย์ไปค้ำประกัน กองกำกับการสืบสวน ร่วมกับ สภ.เมืองอุดรธานี ทราบว่ามีกลุ่มนายทุนหลายกลุ่ม มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ รับจำนำ ในการเข้าปฏิบัติการตรวจยึดรถยนต์ 33 คัน รถจักรยานยนต์ 11 คัน มูลค่า 23 ล้านบาท วงเงินกู้อยู่ที่ 22 ล้านบาท เรียกอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ 240 ต่อปี 180 ต่อปี 150 ต่อปี ซึ่งจะเป็นความผิดฐาน “ให้กู้ยืมเงิน เรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด” อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ปล่อยเงินกู้จะดูตามมูลค่ารถที่ขายในตลาดมืดได้ในราคาที่ใกล้เคียงกัน เริ่มตั้งแต่ราคา 30,000 – 100,000 บาท มีการหักดอกเบี้ยตั้งแต่เอาไปจำนำ ตั้งแต่ค่าดำเนินการเอกสาร ค่าฝากรถ บางรายมีการทิ้งช่วง 1- 4 เดือน พอรับจำนำก็นำรถไปขายต่อ พอประชาชนไปขอไถ่รถก็อ้างว่าติดนั้นติดนี่ สุดท้ายคือมีการขายรถต่อไปแล้ว จึงสร้างปัญหาให้กับประชาชน เพราะบริษัทไฟแนนซ์ดำเนินการทางกฎหมายกับประชาชน
พ.ต.ท.อรรคพล กล่าวต่อไปว่า ส่วนเครือข่ายรับจำนำรถ จะมีการโฆษณาทางเพจ เฟซบุ๊ก “รับจำนำอุดร” มีจำนวนหลายเพจ ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลด้วยการล่อซื้อ ตอนนี้ได้จับนายทุนก่อน เพราะเวลาส่งรถขายประเทศเพื่อนบ้าน จะมีการส่งรถไปจังหวัดข้างเคียงก่อน เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพรถ ดัดแปลง เปลี่ยนชิ้นส่วน ก่อนส่งขาย ไม่ได้ขายทันที ซึ่งตำรวจกำลังขยายผลไปยังกลุ่มนายทุนจังหวัดข้างเคียง ตอนนี้ทราบแล้วว่าอยู่จังหวัดไหน ซึ่งจะมีการผ่านนายหน้า คนทำเอกสาร คนรับดำเนินการ กลุ่มบุคคลเหล่านี้ถือว่าเป็นผู้สนับสนุน แต่ตอนนี้ตำรวจได้ดำเนินการกับนายทุนหลักก่อน ถือว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดขบวนการนี้
“ฝากไปยังนายทุนที่เรียกดอกเบี้ยเกิน เอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน อัตราโทษค่อนข้างสูง แยกเป็นต่างกรรม ต่างวาระ ถ้าให้มีการกู้ยืมอยากให้ปรับตามโครงสร้างที่กฎหมายกำหนดไว้ อยากฝากเตือนประชาชน ในการรับจำนำรถในกรณีที่ไม่ชำระเงิน ไม่ชำระดอกเบี้ย ก็จะถูกข่มขู่ กดกันด้วยวิธีการต่างๆ สุดท้ายจะเข้าขบวนการนำรถส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน หรือนายทุนอื่นๆ ส่งผลให้ถูกดำเนินคดียักยอกทรัพย์ หรือไฟแนนซ์ฟ้อง จึงไม่อยากให้มีขบวนการเช่นนี้เกิดขึ้น หากมีการกู้ยืมก็อยากให้เข้าสู่ระบบตามกฎหมาย”
ขณะที่น้องมาย อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นลูกหนี้นายทุนดังกล่าวเปิดเผยว่า รู้จักนายทุนจำนำรถจาก เพจรับจำนำรถ รับจำนำรถยนต์ รถบิ๊กไบค์ อุดรธานี ขอนแก่น เพราะตนมีปัญหาอยากได้เงินก้อนมาลงทุน เลยตัดสินใจทักไป จากนั้นก็ให้แอดไลน์ คุยรายละเอียดรถ ว่ารับจำนำเท่าไหร่ ซึ่งเป็นรถปิกอัพ 4 ประตู จำนำที่ 120000 บาท หักค่าดอกเบี้ย 12,000 ต่อ เดือน ค่าเอกสาร 1000 บาท ค่าจอดรถ 1000 บาท ได้เงินมา 106,000 บาท ยังไม่ถึง 1 เดือน ตำรวจมาจับกุมนายทุนก่อน ก็ดีใจเพราะดอกเบี้ยงแพง หาไม่ทัน
ส่วนน้องน้อย อายุ 33 ปี ลูกหนี้อีกคนหนึ่งกล่าวว่า รู้จักทางเพจ ได้นำรถกระบะไปจำนำ 150,000 บาท ดอกเบี้ยเดือนละ 15,000 บาท หักค่าจอด 1,000 บาท ค่าเอกสาร 1,000 บาท หักดอกเบี้ย 15,000 บาท รับเงินจริง 133,000 บาท ต้องส่งดอกเบี้ยและค่าจอด 16,000 บาท ตนจำนำได้ 1 ปีแล้ว เงื่อนไขถ้าส่งดอกเบี้ยไม่ตรงเวลาจะปรับเงินสัปดาห์แรก 500 บาท สัปดาห์ที่สอง 1,000 บาท ครบเดือนไม่จ่ายก็จะยึดรถไปเลย ไม่ให้ไถ่ ไม่ให้รถคืน ตนไม่อยากเสียรถและทรัพย์สิน ถ้าถูกยึดรถก็จะไม่มีรถทำมาหากิน พอเจ้าหน้าที่มาไกล่เกลี่ยก็รู้สึกว่าดี ต่อไปจะไม่จำนำอีก เข็ดหลาบแล้ว