ศรีสะเกษ – ชื่นชมเด็กดี นักเรียนหญิง ป.4 เก็บทองคำหนัก 2 บาท มูลค่า 7 หมื่น ส่งคืนเจ้าของ

 

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวบ้านแห่ชื่นชมเด็กเด็กดีที่มีความซื่อสัตย์เก็บสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท ได้ แล้วนำส่งคืนเจ้าของ สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ ผู้ปกครอง พ่อ แม่ คณะครู เพื่อนนักเรียน และโรงเรียน เป็นอย่างมาก ต่างพากันยกย่องเชิดชูเยาวชนที่มีจิตใจดี มีคุณธรรม กันอย่างล้นหลาม

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่ไปที่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 2 บ้านทะลุโนนม่วง ต.สำโรงตาเจ็น อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ไปพบกับ นางสมคิด พงษ์สุระ อายุ 56 ปี เจ้าของบ้าน กำลังเลี้ยงหลานอยู่ที่บ้าน พร้อมกับ ด.ญ.พรสุดา พงษ์สุระ หรือน้องใบเตย อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านสำโรงตาเจ็น เด็กดีที่เก็บทองคำได้ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 ม.ค. 2567 ในหมู่บ้านได้มีการจัดงานพิธีศพ ตนเก็บสร้อยข้อมือได้ แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นอะไร ไม่รู้ว่าเป็นทองคำ แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร ปกติตนเก็บของได้ก็จะนำไปให้ครู หรือ ผอ.โรงเรียน ช่วยประกาศตามหาเจ้าของอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งได้นำส่งคืนเป็นที่เรียบร้อยทุกครั้ง

ด้าน นางสมคิด พงษ์สุระ ย่าของน้องใบเตย กล่าวว่า น้องใบเตย เป็นคนนิสัยดี เรียนพอใช้ได้ ได้คะแนนเกรด 3 อยู่ที่บ้านและโรงเรียน จะชอบช่วยงานบ้านผู้ปกครอง ทั้งเลี้ยงน้อง ล้างถ้วย ล้างจาน กวาดบ้าน ส่วนเวลาอยู่ที่โรงเรียนจะเป็นคนชอบช่วยคน ช่วยคุณครู เวลาเก็บสิ่งของได้ ก็จะเก็บไปคืนเจ้าของอยู่เสมอ ถือว่าเป็นคนซื่อสัตย์ และตนในฐานะผู้ปกครอง ก็รู้สึกปลื้มใจในความดี ความซื่อสัตย์ของหลานมาก อีกทั้งชาวบ้านที่ทราบข่าว ก็ต่างพากันแห่ชื่นชมกันทั้งหมู่บ้านและโรงเรียนอีกด้วย

ขณะที่ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 14 บ้านน้ำอ้อม ต.หนองเชียงทูน อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ นายคูณ โพธิ์งาม อายุ 78 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นเจ้าของสร้อยข้อมือทองคำที่ทำหล่น เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า วันเกิดเหตุ ตนได้ใส่สร้องคอทองคำ 1 เส้น แหวนทองคำ 4 วง และสร้อยข้อมือทองคำที่หล่นหาย 1 เส้น หนัก 2 บาท ไปช่วยงานศพที่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดกัน

หลังเสร็จงานศพเครื่องเสียงภายในงานได้ประกาศตามหาผู้ที่ทำสร้อยข้อมือหล่นหาย ให้ติดต่อรับคืนได้ที่งาน ตนจึงเปิดแขนเสื้อขึ้นสำรวจดูสร้องข้อมือของตนเอง ปรากกฎว่าหายไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในวันนั้นตนสวมเสื้อแขนยาวไปงาน ตนคิดว่าแขนเสื้อของตนน่าจะไปเกาะเอาตะขอสร้อยข้อมือจนตกหล่นร่วงลงกับพื้น ทำให้หล่นหายไม่รู้ตัว สักพักไม่นานก็มีคนประกาศว่าสร้อยข้อมือทองคำของใครตกให้มาแสดงตัวรับได้

ตอนนั้นตนก็ยังไม่รู้ว่าเป็นสร้อยข้อมือของใคร ไม่คิดว่าเป็นของตนเอง แต่พอมาสำรวจตัวเองดู ถึงรู้ว่าสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 2 บาท ของตนหล่นหาย ตนจึงรีบไปแสดงตัวเป็นเจ้าของพร้อมขอรับสร้อยคืน แต่ในวันนั้นตนมีเงินติดกระเป๋าอยู่เพียง 300 บาท ตนจึงได้มอบเงินจำนวน 200 บาท เป็นสินน้ำใจในเบื้องต้น และเมื่อวานนี้ก็ได้เดินทางไปมอบเงินเพื่อสมทบทุนการศึกษาในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ เพิ่มเติมอีก จำนวน 1,300 บาท และตนยังจะมอบให้เรื่อย ๆ ตามโอกาสต่าง ๆ ต่อไป เพื่อส่งเสริมเด็กดี ที่มีความซื่อสัตย์ สมควรได้รับการยกยกชื่นชมเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคมต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายคูณ โพธิ์งาม ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตนเริ่มแก่และอายุมากแล้ว ก็อาจจะมีความหลงๆลืมๆบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็เคยใส่ทองลักษณะนี้ไปทำบุญใส่บาตรที่วัด และในขณะหยิบของใส่บาตรอยู่นั้น ก็เคยทำแหวนทองคำหล่นใส่ลงไปในบาตร โดยไม่รู้ตัว มาแล้วครั้งหนึ่ง จนต้องประกาศตามหากันวุ่น กระทั่งพระที่บิณฑบาตได้เทข้าวออกจากบาตร จึงพบว่าแหวนตกอยู่ในนั้น แล้วก็ได้รับกลับคืนเช่นกัน ถือว่ายังมีความโชคดีอยู่บ้าง อาจเพราะตนเป็นคนชอบสวดมนต์ไหว้พระและทำบุญบ่อยครั้งก็เป็นได้.

ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน