หนองคาย – หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบ กรณีการขุดทำทางเดินเรือและการนำเข้าทรายจาก สปป.ลาว

หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบด่วน กรณีการขุดทำทางเดินเรือและการนำเข้าทรายจาก สปป.ลาว ของผู้ประกอบการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หลังผู้ประกอบการสัมปทานบ่อทราย มาตรา 9 ได้ร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าวให้เป็นสื่อกลาง ถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง ช่วยตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน


เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2566 ( เวลาประมาณ 10.30 น.) ที่ ผ่านมา นายอภิเดช หาญธรรม ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาหนองคาย นำผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารพราน ฉก.ทพ.2110 ฉก.ทพ.21 ขณะออกปฎิบัติหน้าที่ลาดตระเวนตามปกติ ในการเฝ้าระวังการทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ผ่านมาได้ร่วม ตรวจท่าทราย แห่งหนึ่งที่บริเวณ บ้านปากโสม หมู่ที่ 2 ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย หลังได้มีผู้ร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าว ว่า สงสัยและเชื่อว่าทรายที่นำเข้าจาก สปป.ลาว ไม่ถูกต้อง ส่วนทรายที่ขุดลอกร่องน้ำทำทางเดินเรือ เชื่อว่าน่าจะไม่เป็นไปตามกฎหมาย ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบด่วนให้เกิดความถูกต้องและชัดเจน เพื่อให้เป็นแนวทางปฎิบัติให้ถูกต้องของผู้ประกอบการรายอื่น
ปัจจุบันการพื้นที่จังหวัดหนองคาย มีผู้ประกอบการขอนำเข้าทรายจาก สปป.ลาว ที่ได้รับอนุมัติ จากศุลกากรหนองคาย มีจำนวน 2 ราย ในพื้นที่อำเภอสังคม และ อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย และขออนุมัติตามมาตรา 9 จำนวน 10 ที่ ซึ่ง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาหนองคาย ได้อนุญาตให้ ท่าทราย รายหนึ่ง ใน พื้นที่ อ.สังคม ขุดลอกร่องน้ำทางเดินเรือบริเวณหน้าท่าเทียบเรือในแม่น้ำโขง หมู่ที่ 2 ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. 66 – 20 ม.ค.67


จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้มีผู้ประกอบการฯนำเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวเดินดูพื้นที่ พบมีกองทรายจำนวนหนึ่งอยู่บริเวณบนฝั่งแม่น้ำโขง โดยได้ปักป้ายที่ 1 ว่า “กองวัสดุขุดร่องน้ำทางเดินเรือ” และปักป้ายที่ 2 ว่า “ กองวัสดุทรายนำเข้า” ไว้หน้ากอง และพบรถแม็คโฮ จำนวน 2 คัน จอดอยู่ และรถตัก 1 คัน เรือเปล่าสำหรับบรรทุกทราย 1 ลำ จอดอยู่ริมฝั่ง และเรือดูดทราย (ขุดร่องทำทางเดินเรือ ) จอดอยู่ในแม่น้ำโขง ฝั่งประเทศไทย จำนวน 1 ลำ ห่างฝั่งประมาณ 100 เมตร และปริมาณทรายที่นำขึ้นมาจากการขุดลอกร่องน้ำทำทางเดินเรือ พบมีจำนวนน้อยมาก เมื่อเทียบกับเวลาที่ได้รับอนุญาต และไม่มีเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ กรณีนำทรายออกไปทำสาธรณะประโยชน์ โดยผู้ประกอบการบอกว่ารอหนังสือตอบรับจากผู้ขอรับบริจาคทราย ที่ยังไม่ได้นำส่งกลับมา ซึ่งตามระเบียบกรมเจ้าท่า กรณีที่มีการนำเอาวัสดุที่ได้จากการขุดลอกไปใช้ประโยชน์ ให้ผู้รับอนุญาตดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย


ด้านผู้ประกอบการฯ กล่าวว่า ได้ขออนุมัติจาก ศุลกากรหนองคาย ในการนำเข้าทรายจาก สปป.ลาว อย่างถูกต้อง ซึ่งได้ขอเป็นห้วงๆ ละ 15 วัน คือ ระหว่างวันที่ 1-15 ธ.ค.66 ส่วนที่เห็นมีการดูดทรายอยู่นั้นเนื่องจากระดับน้ำโขงได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการตื้นเขิน จึงได้มีการขุดร่องทำทางเดินเรือ เพื่อที่จะนำเรือออกไปบรรทุกทรายนำเข้ามาได้ ส่วนทรายที่นำขึ้นมาจากการขุดร่องทำทางเดินเรือ จะนำมากองไว้ไม่นำออกไปใช้ประโยชน์หรือจำหน่ายแต่อย่างใด นอกจากไปทำสาธารณะประโยชน์หรือส่วนราชการที่มีความจำเป็นและต้องการทรายเพื่อนำไปใช้ประโยชน์สาธารณะหรือประโยชน์ทางราชการ โดยได้ทำบัญชีไว้ทุกราย ส่วนทรายที่นำเข้าจาก สปป.ลาว นั้นยืนยันเป็นทรายที่นำเข้าอย่างถูกต้องทุกขั้นตอนของศุลกากรหนองคาย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปตรวจสอบ การนำเรือออกไปบรรทุกทราย/ดูดทราย ก็จะมีการแจ้งพิกัดให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรับทราบทุกครั้ง

ส่วน นายอภิเดช หาญธรรม ผอ.สำนักงานเจ้าท่า ภูมิภาค สาขาหนองคาย กล่าวว่า จังหวัดหนองคาย ได้มีการอนุญาตตามมาตรา 9 ประมาณ 10 ที่ ส่วนการขุดลอกหน้าเทียบเรือจะมีอยู่ 1 ที่ ที่ อำเภอสังคม การอนุญาตขุดลอกเป็นไปตาม ระเบียบกรมเจ้าท่า ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ ขุดลอกร่องน้ำทางเรือเดินบริเวณหน้าท่าเทียบเรือ พ.ศ. 2556 ตัวขุดลอกจะต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อมและกฎหมาย การอนุญาตแต่ละครั้งไม่เกิน 6 เดือน สำหรับทรายที่บริเวณหน้าท่าเทียบเรือ ให้นำทรายมากองไว้ใกล้บริเวณขุดลอก ห้ามเคลื่อนย้าย ห้ามเอาทรายออกนอกพื้นที่และห้ามจำหน่าย ในส่วนท่าทราย ที่ อำเภอสังคม ได้ทำเรื่อง ขออนุญาตนำทรายเข้าจาก สปป.ลาว เข้ามาไทย ด้วย ตามระเบียบพิธีการศุลกากร จะมีการแจ้งนำทรายเข้า ปริมาณทรายเท่าไรที่ศุลกากร ส่วนการนำเรือเข้า -ออก จะต้องแจ้งทางเจ้าท่า ทั้งเรือที่ดูดทรายและขุดทรายที่จะนำเข้าจากลาว


กรณีทรายที่ขุดลอกขึ้นมา สามารถนำไปใช้ในสาธารณะประโยชน์ได้ เช่น โรงเรียน วัด ต้องจดคิว มีหนังสือขอให้ชัดเจน ถ้าเป็นการจำหน่ายทราย ก็เป็นการทำผิด หากพบผู้ประกอบการนำทราย ไปจำหน่าย ไม่ทำตามระเบียบ เมื่อไปตรวจสอบปริมาณทรายไม่สอดคล้องไม่ถูกต้องตามที่แจ้งไว้ หรือประชาชนพบเห็นว่านำทรายออกไปไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้
ในส่วนนายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอสังคม ในฐานะพ่อเมืองก็ได้ลงพื้นที่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอสังคม และผู้สื่อข่าว เพื่อตรวจสอบ ท่าทรายรายหนึ่ง พื้นที่บ้านปากโสมหมู่ที่ 2 ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบว่าทรายที่นำเข้ามาจาก สปป.ลาว และทรายที่ขุดลอกร่องทำทางเดินเรือ หลังได้มีผู้ร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าว สงสัยและเชื่อว่าทรายที่นำเข้าไม่ถูกต้อง และทรายที่ขุดลอกเชื่อว่าไม่เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ


จากการตรวจสอบครั้งนี้ นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอสังคม กล่าวว่า ทางอำเภอและฝ่ายปกครองอำเภอสังคมได้มาตรวจการประกอบการ ท่าทรายในพื้นที่ บริเวณบ้านปากโสม ต.ผาตั้ง ซึ่งมาดูการขุดลอกการเก็บรักษาทราย ให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชุมชน และได้เน้นย้ำผู้ประกอบการฯ ให้ปฎิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญให้ระมัดระวังอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในการสัญจร เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างแคบ และที่สำคัญที่สุดคือให้แยกให้ชัดเจนระหว่างทรายที่นำเข้าตามกฎหมายศุลกากรที่ศุลกากรอนุญาต กับทรายที่ทำการขุดลอกซึ่งบางส่วนทราบว่าได้มีการบริจาคให้กับสาธารณะประโยชน์ เน้นย้ำให้มีหลักฐานให้ชัดเจนว่าเราได้บริจาคให้กับใครอย่างไร ในพื้นที่เองถึงแม้ไม่ได้เป็นผู้อนุญาต ก็ได้เน้นย้ำหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่หรือหน่วยงานต่าง ๆที่รับผิดชอบในพื้นที่ ได้มาตรวจสอบตลอดเวลาซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเนื่องจากเป็นพื้นที่ชายแดนติดแม่น้ำโขงซึ่งเป็นแม่น้ำนานาชาติจึงให้ความสำคัญเรื่องนี้ ซึ่งทางอำเภอสังคมเองหน่วยงานความมั่นคงทั้งหมดก็จะตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และเพื่อไม่ให้เกิดกระทบกับพี่น้อง ประชาชน


ส่วน เจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า ผู้ประกอบการรายดังกล่าวได้ยื่นเอกสารการขอนำเข้าทราย จาก สปป.ลาว ซึ่งการนำเข้าสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร ณ จุดดังกล่าวเป็นการนำเข้านอกทางอนุมัติตามมาตรา 84 วรรค 2 โดยมีการอนุมัติเป็นห่วงๆ ไป คือได้อนุมัติไปแล้วห้วง 1 -15 ธ.ค.66 (15 วัน) พร้อมทั้งมีหนังสือแจ้งหน่วยงานในจังหวัด อำเภอ ตำรวจ กกล. นรข. และกรมเจ้าท่า ในพื้นที่ เข้าไปตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่


สำหรับ ผู้ประกอบการสัมปทานบ่อทราย ตามมาตรา 9 กล่าวว่า เชื่อว่าการนำเข้าทรายจาก สปป.ลาว ไม่ถูกต้อง และการนำทรายที่ขุดร่องน้ำทางเดินเรือ ออกไปจากพื้นที่ซึ่งตามระเบียบกรมเจ้าท่ากำหนด ถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมายและระเบียบอื่น ๆ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบจนกว่าการตรวจสอบจะมีความชัดเจน เพราะอาจสร้างความเสียหายระดับประเทศได้ ควรแก้ข้อกำหนดทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการดูดทรายตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง ในการประชุมไทย-ลาว ที่เมืองพัทยา ปี 2551 ซึ่งทางประเทศไทยบังคับใช้มาโดยตลอด ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการดูดทรายของไทย ตามมาตรา 9 เริ่มปิดตัวลง และคงจะหมดไปในที่สุด ควรมีการแก้ข้อกำหนดทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการดูดทรายตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง ที่เมืองพัทยา ปี 2551 ผู้ประกอบการดูดทรายจึงจะสามารถดูดทรายตาม มาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินได้ จังหวัดหนองคาย ทรายก็จะไม่ขาดแคลนและราคาถูกกว่าการนำเข้า

นายพันธลภ แสงทอง จังหวัดหนองคาย