หนองคาย (ชมคลิป) เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู 5 อำเภอ ทั้งหนองคาย-บึงกาฬ เดือดร้อนหนัก ขายหมูให้นายทุนไม่ได้เงิน

เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู 5 อำเภอ ทั้งหนองคาย-บึงกาฬ เดือดร้อนหนัก ขายหมูให้นายทุนไม่ได้เงิน รวมตัวเข้าพบ ผกก.สภ.รัตนวาปี เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายทุน


วันที่ 23 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้า กรณี เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู 5 อำเภอ ทั้งจังหวัดหนองคาย และจังหวัดบึงกาฬ เดือดร้อนหนักเป็นวงกว้าง ขายหมูให้กับนายทุนแต่ไม่ได้เงิน จึงได้รวมกันกว่า 40 คน เข้าพบ พ.ต.อ.ภูวิศ ศิริพานิช ผกก.สภ.รัตนวาปี เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา เพื่อร้องทุกข์และให้ดำเนินคดีกับนายทุน กรณีที่ขายหมูให้กับนายทุน ที่ตระเวนรับชื้อหมูแต่กลับไม่ได้จ่ายเงินค่าหมูแม้แต่บาทเดียว จึงทำให้กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูได้รับความเดือดร้อนไม่มีเงินทุนหมุนเวียนในการเลี้ยงหมู่ในรุ่นถัดไป
จากการสอบถามกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเบื้องต้นทราบว่า มีเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู่ที่ได้รับความเดือดร้อนและเสียหาย 5 อำเภอ ประกอบด้วย 1.อำเภอรัตนวาปี 2.อำเภอโพนพิสัย 3.อำเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย 4.อำเภอโซ่พิสัย และ5.อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ ได้มีการชื้อขายหมูกับ น.ส.เอ และ นายบี(นามสมมุติ) หมู่ 13 ต.เฝ้าไร่ อ.เฝ้าไร่ ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน โดยนาง เอ มีอาชีพขายหัวอาหารสัตว์อยู่ที่ อำเภอเฝ้าไร่ ซึ่งเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูบางรายก็ได้ชื้ออาหารหมูจาก น.ส. เอ เมื่อหมูโตเต็มวัยก็จะขายหมูให้กับ น.ส. เอ มาหลายรอบแล้ว แต่จะเป็นการนำหมูไปก่อนค่อยจ่ายเงินกันทีหลัง แต่เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา น.ส. เอ ได้ไปตระเวนชื้อหมูใน 5 อำเภอ ดังกล่าว ทั้งรายเก่าที่เคยชื้อขายกันก่อนหน้านั้น และรายใหม่เงื่อนไขก็เหมือนเดิม คือนำหมูไปก่อนและจะนำเงินมาจ่าย ภายในเวลาไม่เกิน 15 วัน ซึ่งยอดเงินที่ไม่จ่ายมีตั้งแต่รายละ 20,000 บาท ไปจนถึง 300,000 บาท เมื่อเวลาผ่านมา 1 เดือน ก็ไม่มีวี่แววว่านาง A จะนำเงินที่ค้างมาจ่ายให้แต่อย่างใด กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู่ที่ได้รับความความเดือดร้อน/เสียหาย จึงได้นัดรวมตัวกันเข้าพบ พ.ต.อ.ภูวิศ ศิริพานิช ผกก.สภ.รัตนวาปี พร้อมกับติดต่อทางโทรศัพท์ หา น.ส. เอ และนาย บี ให้มาเจรจากันที่ สภ.รัตนวาปี
เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายมาพร้อมกัน ผกก.สภ.รัตนวาปี จึงได้เชิญตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูและนายทุนผู้รับชื่อหมูขึ้นไปเจรจากันที่ชั้น 2 ห้องประชุม สภ.รัตนวาปี จากการเจรจาเบื้องต้น นายทุนยอมรับว่ามีการบริหารที่ผิดพลาดและได้อุ้มราคาหมูให้กับกลุ่มเกษตรกรจนทำให้หมุนเงินไม่ทัน และยอมรับว่าตอนนี้ไม่เหลือเงินขอเวลาหาเงินมาชดใช้ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู่ ตอนนี้ติดเงินยังไม่ได้จ่ายประมาณล้านกว่าบาท แต่ไม่ได้คิดจะหนี ส่วนเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู่สงสัยว่าเงินที่เป็นต้นทุนหายไปไหน ถึงแบกต้นทุนหรืออุ้มราคาส่วนต้นทุนก็ยังคงอยู่ทำไมไม่แบ่งมาจ่าย แต่ทางนายทุนก็ไม่ยอมตอบ บอกแค่ว่าเอาเงินมาอุ้มราคาหมู่ ซึ่งผลการเจรจาไม่สามารถตกลงกันได้ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู่จึงรวมตัวกันเดินทางเข้าขอพึ่งบารมีกับ พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมเดชพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จว.หนองคาย โดยมี พ.ต.อ.ปรีดา ดวงพุทธา ผกก.สอบสวน ภ.จว.หนองคาย ซักข้อเท็จจริงเบื้องต้น ทราบว่า นายทุนได้ไปซื้อหมูกับชาวบ้าน และได้ไห้ราคาเกินจริง ของราคาตลาด ซื้อขายรายแรกๆ ก็จ่ายเงินกัน รายต่อมาก็ไม่ได้จ่ายเงิน จึงได้รวมตัวเข้าและนัดนายทุนมาตกลงกันที่ สภ.รัตนวาปี แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงได้พากันเดินทางเข้าพบ ผบ.ภ.จว.หนองคาย ดังกล่าว ซึ่ง ผบ.ภ.จว.หนองคาย ได้มาพบกับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเพื่อรับทราบข้อเท็จจริง และจะได้ออกคำสั่งให้ตั้งคณะทำงาน ทำการสอบสวน เนื่องจากมีประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก น่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงประชาชน และให้กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูแจ้งความดำเนินคดีกับนายทุน พร้อมให้ประสานทั้ง 5 สภ. เพื่อดำเนินการให้ผู้เสียหายรายอื่นเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน น.ส.เฟื้องฟ้า ผาสุราษฎร์ บ.นาสิงห์ ต.พระบาทนาสิงห์ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ตนเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ขายหมู่ไป 13 ตัว เป็นเงิน 75,000 บาท ขายตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2566 ถึงตอนนี้ (22 พ.ย. 66 ) ก็ยังไม่ได้เงิน ตอนซื้อ-ขาย นายทุนแจ้งว่า 15 วันจะนำเงินมาจ่าย แต่ก็เงียบ วันนี้จึงได้เดินทางมาขอความเห็นใจกับนายทุนให้นำเงินมาจ่ายให้ เพราะเงินที่ลงทุนไปก็ไปกู้มาชื้ออาหารหมู ตอนนี้เดือดร้อนหนักไม่มีเงินไปชื้อหัวอาหารให้หมูที่เหลือกิน
ส่วน นางสวาท เตียงงา เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู หมู่ 7 ต.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ขายหมูไปตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2566 จำนวน 9 ตัว เป็นเงิน 57,660 บาท ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เงิน จึงได้ไปแจ้งความไว้ ที่ สภ.เฝ้าไร่ ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 ต่อมาทราบว่ามีผู้เสียหายหลายรายที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับตน และทราบว่านายทุนผู้ชื้อหมูเดินทางมาที่ สภ.รัตนวาปี ตนจึงได้เดินทางมาเพราะหวังว่าจะได้เงินคืนบ้าง
และยังมีเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูอีกหลายท่านที่ได้รับความเสียหายจากรณีดังกล่าว เช่น นายดำรง หมู่ 5 อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ 63,560 บาท, นางวรรณีย์ ดวงศรแสง หมู่ 16 ต.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย 45,120 บาท, นายสมนึก วันชัย บ.บัวตูม อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 21,000 บาท, นางหนูรัตน์ พันธ์มะลี ต.บัวตูม อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย 36,600 บาท,นายทิพย์พาชัย อามาตย์มนตรี ม.9 อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย 51,585 บาท,นางสนทะนา วานนท์ ม.4 อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย 15,561 บาท, น.ส.ลินดา สุระทัด บ.บัวตูม อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 50,840 บาท, นางนงเยาว์ สวนคาย บ.เฝ้าไร่ อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย 34,500 บาท นายสมหมาย โคตรพรม 155,000 บาท อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย , นายสุนทร บุตรนนท์ 84,782 บาท นางปรารถนา พลกลาง 55,500 บาท, นางสมควร อัสสพันธ์ 30,000 บาท,นายบัวพันธ์ ศรีจันทร์ 36,300 บาท นางฟานิดา พลทะรักษา 22,020 บาท, นางจิตตรา เพชรเสถียร 62,220 บาท, นางคำปุ่น นาสินพร้อม 63,684 บาท หากมีผู้เสียหายรายอื่นก็สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.รัตนวาปี ได้

นายพันธลภ แสงทอง:นายโภควินทร์ จังหวัดหนองคาย