เกี่ยวกัยเหตุการณ์ดังกล่าว ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สิน รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก นายสวย รูปสวย อายุ 61 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล เขตเทศบาลนครอุดรธานี ว่ามีเหตุชายคนหนึ่งเดินไปมาในมือถือคันธนูพร้อมลูกธนู อยู่ในสนามฟุตบอลของโรงเรียน ในขณะนั้นได้มีเด็กนักเรียน ได้ทำการฝึกซ้อมกีฬาอยู่ข้างใน เกรงว่าจะทำให้มีเหตุทำให้นักเรียนได้รับอันตรายได้ หลังจากได้รับแจ้ง จึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่สนามฟุตบอลของโรงเรียนที่เกิดเหตุ พบว่ามีชายอายุประมาณ 20 – 25 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน ทับด้วยเสื้อกั๊กไหมพรม กางเกงขายาวสีน้ำตาล รองเท้าผ้าใบสีดำ ในมือข้างซ้ายถือคันธนู ที่เอวคาดซองใส่ลูกธนู เดินวนไปรอบ ๆ สนามอยู่ และในขณะนั้น มีอาจารย์และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงเรียน ได้ตะโกนให้นักเรียนที่ยังทำกิจกรรมกีฬาสีที่ทางโรงเรียนจัดให้อยู่ และต่างพากันตกใจแตกตื่นอยู่ให้ถอยห่างจากชายคนดังกล่าว หลังจากนั้นนักเรียนหลายคนก็พากันวิ่งไปหลบอยู่ในอาคารเรียน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงได้ขับรถ จยย.สายตรวจเข้าไปประชิดตัวชายดังกล่าว พร้อมกับบอกให้หยุดเจรจาพูดคุยกัน ชายคนดังกล่าวไม่มีท่าทีขัดขืนหรือตกใจ ยืนนิ่งๆ ยินยอมให้พูดคุยสอบถาม แต่มีสีหน้าเคร่งเครียด ตำรวจได้แจ้งให้ทราบว่าเป็นบุคคลภายนอก ทางโรงเรียนไม่อนุญาตให้เข้ามาภายในโรงเรียน ทั้งยังถืออาวุธอันตรายเข้ามาด้วย จึงขอเชิญตัวให้ออกนอกบริเวณโรงเรียน และเจรจาย้ำว่าห้ามกลับเข้ามาที่โรงเรียนพร้อมอาวุธแบบนี้อีก ชายคนดังกล่าวไม่ตอบข้อซักถาม พร้อมกับพูดจาต่อล้อต่อเถียงว่ามีสิทธิ์อะไรพกปืนมาข่มขู่ตัวเอง ก่อนที่จะเดินออกไปจากสนามฟุตบอลไปขึ้นรถยนต์เก๋ง (ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์ทอง กข 8982 อุดรธานี) ที่จอดไว้หน้าอาคารเรียน ประมาณ 300 เมตรขับออกไป
นายสวยฯ กล่าวว่า ก่อนนี้ได้รับแจ้งจากครูผู้ชายท่านหนึ่งว่ามีชายต้องสงสัย สะพายคันธนูและลูกธนูเข้ามาเดินวนอยู่ในสนามฟุตบอลโรงเรียน เมื่อครูเดินเข้าใกล้เพื่อสอบถาม ชายคนนั้นได้ยกคันธนูขึ้นมาเล็งใส่คุณครูเข้า ทำให้คุณครูตกใจและรีบวิ่งมาบอกตน ๆ จึงรีบโทรแจ้งตำรวจ และบอกให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคนหนึ่ง รีบเข้ามาที่สนามฟุตบอลเพื่อควบคุมสถานการณ์
“ตอนนั้นเด็กๆ ยังอยู่ในสนามพอสมควร ตนจึงรีบตะโกนบอกเด็กถอยห่างออกไป ชายคนนั้นเดินวนรอบสนามประมาณ 3 รอบ พอตำรวจมาถึงก็ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ตนไม่เคยเห็นชายคนนี้มาก่อน จากท่าทางคิดว่าเขาคงสติไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ยังพูดสื่อสารได้ เบื้องต้นได้ถ่ายรูปชายคนนั้น และถ่ายรูปรถเก๋งเอาไว้ เพื่อคัดกรองไม่ให้กลับเข้ามาในโรงเรียนอีก เพราะว่ามีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นได้ในอนาคต”
นางอภิรดี พรหมแสงใส อายุ 49 ปี อาจารย์แนะแนว กล่าวว่า ตนพักอยู่ที่บ้านพักครู เมื่อทราบข่าวตนตกใจมาก พอรู้ว่าควบคุมสถานการณ์ได้จึงรีบเดินออกมาดู ยังไม่ทราบว่าชายคนดังกล่าวเข้ามาด้วยจุดประสงค์ใด ชายคนดังกล่าวพวกตนไม่คุ้นหน้า แต่สิ่งที่พกพามาด้วยเป็นอันตรายต่อพื้นที่เรา ตำรวจก็ได้ผลักดันออกไป และย้ำว่าห้ามกลับเข้าอีก โชคดีที่ไม่เกิดความเสียหาย หรือไม่มีใครได้รับอันตราย หลังจากนี้จะได้แจ้งเรื่องต่อไปยังคณะผู้บริหาร เผื่อหาวิธีดูแลความปลอดภัยเด็กให้รัดกุมมากกว่าเดิม เนื่องจากกีฬาสียังมีกิจกรรมอีกหลายวัน ขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาดูแลได้ทันท่วงที
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่ชายคนดังกล่าวเดินมาถึงรถยนต์เก๋งของตัวเอง ได้ถอดชิ้นส่วนคันธนู และเก็บอุปกรณ์ใส่รถ เมื่อเก็บเรียบร้อย ได้เดินมายกมือไหว้ตำรวจทั้ง 2 นาย บอกเพียงว่าผมชื่อ “เวน” และขอโทษต่อสิ่งที่กระทำลงไป เมื่อตำรวจถามว่าเป็นศิษย์เก่าที่นี่หรือไม่ มีบัตรประชาชนหรือไม่ อายุเท่าไหร่ บ้านอยู่ที่ไหน ชายคนดังกล่าวบอกเพียงว่าผมขอเวลาแค่ 19.00 น. ขอให้หยุดคำถาม และชายคนนั้นก็ขึ้นรถเก๋งขับออกไป