บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) เปิดทิศทางธุรกิจ ปี 2566 เตรียมยกระดับมันสำปะหลังไทยสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง สู่การเป็น Food Tech Companyเต็มรูปแบบ
ที่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศไทย นำทีมผู้บริหาร แถลงผลการดำเนินงาน ปี 2565 และทิศทางการดำเนินธุรกิจ ปี 2566 โดยกล่าวว่า ปี 2565 ที่ผ่านมา เป็นปีที่สถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มทยอยฟื้นตัว การใช้จ่ายภายในประเทศปรับตัวดีขึ้นตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายลง ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ประมาณ 7 พันกว่าล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ ประมาณ 329 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2564
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 มีความท้าทายเป็นอย่างมาก ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว และราคาวัตถุดิบมันสำปะหลังยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังลดลง สาเหตุมาจากภัยธรรมชาติ ในช่วงไตรมาศที่ 3 ของปี 2565
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท ฯ ยังคงมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นบริษัท Food Tech Company ที่เน้นการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่การเติบโตที่กว้างไกลกว่า ใน 3 ด้าน คือ
-ก้าวเหนือความท้าทายด้วยแผนธุรกิจ เช่น เดินหน้าผลักดัน E20 ให้เป็นน้ำมันพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการใช้เอทานอลมากขึ้น ผลัดดันเปิดเสรีการใช้เอทานอลในอุตสาหกรรมอื่นๆ
-ก้าวเหนือกว่าด้วยนวัตกรรมที่เปิดกว้างผ่านการวิจัยและพัฒนา เน้นการสร้างนวัตกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การวิจัยด้านอาหารแห่งอนาคต การวิจัยด้านชีวเคมี การวิจัยด้านการเพาะปลูกและสารชีวภัณฑ์-ก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีความยั่งยืนครบทุกมิติ เน้นการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความยั่งยืนตามแนวทาง ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านธรรมาภิบาล
นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ กล่าวอีกว่า ทางบริษัทฯวางเป้าหมายการเป็นหนึ่งในผู้นำการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและยกระดับมันสำปะหลังไทยให้ก้าวไกลสู่ผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่าสูงอื่นๆ ควบคู่กับธุรกิจที่ยั่งยืน สร้างความเท่าเทียมกับทุกกลุ่ม ยกระดับการผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์ ต้นทุนทางวัตถุดิบคุณภาพสู่การแปรรูปที่สมบุรณ์แบบสู่อาหารแห่งอนาคต บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) เปิดทิศทางธุรกิจ ปี 2566 เตรียมยกระดับมันสำปะหลังไทยสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง สู่การเป็น Food Tech Companyเต็มรูปแบบ
( 23 มี.ค.2566) ที่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศไทย นำทีมผู้บริหาร แถลงผลการดำเนินงาน ปี 2565 และทิศทางการดำเนินธุรกิจ ปี 2566 โดยกล่าวว่า ปี 2565 ที่ผ่านมา เป็นปีที่สถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มทยอยฟื้นตัว การใช้จ่ายภายในประเทศปรับตัวดีขึ้นตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายลง ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ประมาณ 7 พันกว่าล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ ประมาณ 329 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2564
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 มีความท้าทายเป็นอย่างมาก ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว และราคาวัตถุดิบมันสำปะหลังยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังลดลง สาเหตุมาจากภัยธรรมชาติ ในช่วงไตรมาศที่ 3 ของปี 2565
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท ฯ ยังคงมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นบริษัท Food Tech Company ที่เน้นการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่การเติบโตที่กว้างไกลกว่า ใน 3 ด้าน คือ
-ก้าวเหนือความท้าทายด้วยแผนธุรกิจ เช่น เดินหน้าผลักดัน E20 ให้เป็นน้ำมันพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการใช้เอทานอลมากขึ้น ผลัดดันเปิดเสรีการใช้เอทานอลในอุตสาหกรรมอื่นๆ
-ก้าวเหนือกว่าด้วยนวัตกรรมที่เปิดกว้างผ่านการวิจัยและพัฒนา เน้นการสร้างนวัตกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การวิจัยด้านอาหารแห่งอนาคต การวิจัยด้านชีวเคมี การวิจัยด้านการเพาะปลูกและสารชีวภัณฑ์
-ก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีความยั่งยืนครบทุกมิติ เน้นการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความยั่งยืนตามแนวทาง ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านธรรมาภิบาล
นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ กล่าวอีกว่า ทางบริษัทฯวางเป้าหมายการเป็นหนึ่งในผู้นำการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและยกระดับมันสำปะหลังไทยให้ก้าวไกลสู่ผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่าสูงอื่นๆ ควบคู่กับธุรกิจที่ยั่งยืน สร้างความเท่าเทียมกับทุกกลุ่ม ยกระดับการผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์ ต้นทุนทางวัตถุดิบคุณภาพสู่การแปรรูปที่สมบุรณ์แบบสู่อาหารแห่งอนาคต