มหาสารคาม(ชมคลิป)คึกคัก เต้ มงคลกิตติ์ นำทีมพรรคไทยศรีวิลไย์ ลงพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย เปิดเวทีแรกปราศรัยครั้งแรก

ที่อ.โกสุมพิสัย พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ สส. พร้อมฝากบอกทุกพรรคการเมืองว่า นโยบายที่ออกจากตนห้ามลอกเลียนแบบเด็ดขายเด็ดขาดนะใครใครลอกตนจะไปด่าถึงหน้าพรรคเลย พร้อมชู 3 นโยบายเด็ด เบี้ยคนชราเดือนละ 5,000 บ. ประกันชีวิตคนไทยทุกชีวิตวงเงิน 5 แสนบาท และเงินกู้ภาคประชาชน 150,000 บ ขอพลังคะแนนเสียงพี่น้องเข้าเป็นรัฐบาล รับรองทำได้แน่นอน


ที่วัดบ้านดอนกลอย ต.หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นายศยุน ชัยปัญญา เลขานุการพรรค พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. พรรคไทยศรีวิไลย์ โดยมีประชาชนใน ต.หัวขวาง และพื้นที่ใกล้เคียงมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก
โดยเมื่อนายมงคลกิตติ์ พร้อมคณะเดินทางมาถึง ชาวบ้านมารอผูกผ้าขาวม้าและคล้องพวงมาลัยดอกดาวเรืองให้การต้อนรับ ตลอดจนรุมล้อมขอถ่ายรูปกันอย่างคึกคัก นอกจากนี้ยังกลุ่มมีผู้สนับสนุนชูป้ายนโยบายเข้ามาให้กำลังใจ ก่อนทั้งหมดจะขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวถึงผลงานในการรับใช้ประชาชนในฐานะฝ่ายค้านที่ผ่านมา และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. ในพื้นที่จำนวน 2 คน ได้แก่ นายธนพงษ์ วังสพรรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 5 และนายอดิศักดิ์ พาลเพ็ง ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 1 ในนามพรรคไทยศรีวิไลย์ จ.มหาสารคาม


นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นพรรคการเมืองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ผู้สมัครของพรรคมาจากต่างสาขาอาชีพแต่หลอมรวมอุดมการณ์ นำความคิด นำความรู้ความสามารถ มาเพื่อแก้ปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาเรื่องหนี้สิน และปากท้องที่พ่อแม่พี่น้องประสบอยู่ โดยเฉพาะตลอดระยะเวลาที่ประเทศไทยอยุ่ภายใต้การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์ จันโอชา พี่น้องชาวบ้านทุกข์ทนกับภาระหนี้สิน หากินลำบาก ซ้ำยังมีปัญหาความเลื่อมล้ำและการผูกขาดจากกลุ่มทุน ทำให้พี่น้องไม่สามารลืมตาอ้าปากได้ ถึงวันนี้ต้องเปลี่ยน เพื่อสิ่งที่ดีกว่า ให้โอกาสคนมีความสามารถเข้าไปทำหน้าที่แทนได้แล้ว


ในส่วนนโยบายพรรคไทยศรีวิไลย์ นโยบายที่เคยเปิดไปแล้ว คือ เบี้ยงผู้สูงอายุ 5,000 บาท ตอนนี้ถือว่าได้รับความสนใจจนถูกพรรคพลังประชารัฐลอกเลียนแบบ แล้วไปปรับปรุงนิดหน่อยเป็นอายุ 60 ปีได้ 3,000 อายุ 70 ปีได้ 4,000 บาท และอายุ 80 ปีได้ 5,000 บาท ซึ่งในมุมมองเราไม่ควรกำหนดการช่วยเหลือคนแก่ เพราะเวลาไปทำมามาหากินหรือไปขึ้นรถลงเรือ ทั่วไปไม่ได้สนใจเรื่องอายุ ถ้าจะให้ก็ต้องเหมือนพรรคไทยศรีวิไลย์ คือ ตั้งแต่ 60 ปีให้ 5,000 บาทเหมือนหมด ซึ่งในเมื่อพรรคพลังประชารัฐจะลอกกันแบบนี้ ก็ขอให้พลเอกประวิตร มาขออนุญาตผมก่อนแล้วผมจะอนุญาตให้เพราะถือว่าประชาชนได้ประโยชน์เหมือนกัน และตอนนี้เหลือรวมไทยสร้างชาติ พรรคน้องใหม่ของลุงตู่ คงลอกเลียนแบบแน่เพราะว่าเพราะลุงตู่ไม่ค่อยมีความคิด ถ้าเทียบกันว่าใครเรียนเก่งกว่ากันก็ต้องบอกว่าลุงตู่ยังห่างชั้นกับผมมาก ส่วนนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็มาลอกจากตนเพราะเคยเป็นคนเสนอร่างพระราชบัญญัติบำนาญแห่งชาติ แล้วรัฐบาลลุงตู่เป็นผู้ตีตกและบอกว่านโยบายนี้ใช้เงินจำนวนมาก แต่ตอนนี้พากันกลับมาสนใจดูแลผู้สูงอายุกัน


การเปิดเวทีในครั้งนี้ถือว่า เป็นที่แรกโดยรับประกันชีวิตทุกชีวิตที่เกิดเป็นคนไทย ถ้าเสียชีวิตทุกเหตุการณ์ ทุกกรณี ทุกโรคจะได้รับเงิน 500,000 บาทซึ่งที่ผ่านมาจะสังเกตว่าช่วงโควิด คนถือบัตรสวัสดิการหรือบัตรคนจน 20 ล้านคน เวลาตายไม่มีเงินค่าโลงศพ ไม่มีเงินค่าปลงศพ หรือแม้กระทั่งไม่มีเงินค่าน้ำมันในการเผาศพ ซึ่งถือว่าน่าอนาถใจมาก ซึ่งนโยบายนี้จะใช้เงินประมาณปีละ 250,000 ล้านบาท เงินส่วนนี้ไม่ต้องไปกู้เงินสร้างหนี้ให้ประเทศใหม่ แต่จะใช้ออกกฎหมายการพนันเปิดเป็นใบอนุญาต เราจะได้ค่าภาษีจากการพนันที่ชอบด้วยกฎหมาย และรวมรายได้จารกการท่องเที่ยวก็พอดีกับเงินค่าประกันกับชีวิตทุกชีวิตของพี่น้องประชาชน


ทั้งนี้ตนอยากฝากบอกทุกพรรคการเมืองว่า นโยบายที่ออกจากตนห้ามลอกเลียนแบบเด็ดขายเด็ดขาดนะใครใครลอกตนจะไปด่าถึงหน้าพรรคเลย และจากนี้หากประชาชนเห็นด้วยถึงนโยบายและต้องการให้ตนและพรรคเข้าไปดูแล สามารถเลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ทั้งระบบ สส.เขต ซึ่งตนพยายามจะส่งให้ครบทุกเขตทั่วไทย ในส่วนของบัญชีรายชื่อ พี่น้องเลือกได้ทุกเขตพื้นที่ ถ้าประเทศไทยมี 22 ล้านครัวเรือน ขอโอกาสครัวเรือนละ 1 คะแนนเลือกเรา ก็สามารถขึ้นเป็นพรรคเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ และเมื่อนั้นนโยบายประกันชีวิตคนไทยได้ 5 แสนบาทต่อหนึ่งชีวิต นโยบายผู้สูงอายุได้ 5000 บาทต่อเดือน ลดราคาน้ำมันลิตรละ 10 บาท หรือเพิ่มเงินให้ อสม.และอพปร. เดือนละ 3000 ก็จะเป็นจริงได้แน่นอน