วันที่27 ม.ค. 66 เวลา 14.30 น. ร.ต.อ.ทิฐินันท์ ศรีเชียงหวาง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งคนร้ายไปขโมยเงินในกระปุกออมสินเด็กนักเรียน ภายในโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สารวัตรสืบสวน พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุห้องเรียนระดับอนุบาล พบ น.ส.นิภาพัชร์ สุขทะแล อายุ 56 ปี ผู้จัดการโรงเรียน พาตำรวจตรวจสอบบริเวณประตูด้านข้างโรงเรียน พบร่องรอยถูกงัดประตู ก่อนที่จะเข้าไปภายในห้องเรียน โดยคนร้ายได้ใช้กรรไกรงัดกระปุกออมสินที่ทำด้วยสังกะสีจำนวน 16 กระปุก ได้เงินเหรียญไปประมาณ 2,000 บาท ส่วนธนบัตรไม่เอาไป แล้วทิ้งกระปุกไว้ภายในห้องเรียน ซึ่งมีคราบเลือดคาดว่าเป็นของคนร้ายที่ถูกกระปุกออมสินทำด้วยสังกะสีบาดได้รับบาดเจ็บ
น.ส.นิภาพัชร์ เล่าว่า กระปุกออมสินทั้ง 16 กระปุกเป็นของนักเรียน ที่จะหยอดเงินออมเอาไว้ จะมีเงินอยู่ประมาณ 2,000 บาท ซึ่งผู้ปกครองให้เงินเด็ก ๆ มาโรงเรียน ถ้าเหลือจากซื้อขนม ก็จะหยอดเอาไว้เป็นเหรียญและธนบัตร เมื่อเรียนจบชั้นอนุบาล 3 ก็จะได้เงินเก็บคนละ 5-6 พันบาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาของเด็ก ๆ โดยช่วงเช้า ตนพบว่าประตูเปิดไว้ หน้าต่าง มุ้งลวด ก็ถูกเปิดออก รอบห้อง จึงเดินไปดูพบว่ามีการงัดกลอนประตู แต่ไม่พบรอยเท้าเพราะอาจจะสูงจึงปีนไม่ได้ คนร้ายจึงได้เปลี่ยนไปงัดประตูด้านข้างแล้วเข้าไปในห้องรื้อค้นหาทรัพย์สิน แต่ครูไม่ได้นำทรัพย์สินมีค่าเก็บเอาไว้จะมีเพียงของแต่งห้องและกล่องใส่เงินเหรียญสลึงเท่านั้น และเด็กในห้องก็เป็นเด็กเล็กจะไม่ได้หยอดเงินเอาไว้ แต่ได้หยิบกรรไกรไป และห้องกลางคุณครูไปตรวจการบ้านเด็กเลยลืมล็อคประตู คนร้ายจึงไม่ได้งัดห้องเปิดเข้าไปขโมยเงินในกระปุกไป
ตนก็อยากฝากให้ทางตำรวจจับกุมตัวคนร้ายให้ได้ เพราะถ้ายังจับไม่ได้ก็จะยังมีความกังวนอยู่ ถ้าหากคนร้ายเป็นพวกติดยาเงินมากหรือน้อยก็มีค่า ถ้าเขามาทำร้ายเด็ก และ ทำอันตรายกับครู เราก็มีระบบป้องกันอยู่ เท่าที่ทราบคนร้ายจะไปก่อเหตุตามสถานที่ต่าง ๆ จะเอาแต่เงินเหรียญ จะไม่สนใจธนบัตร ซึ่งอาจะมีความผิดปกติหรือมีเรื่องฝังใจอะไรกับเงินเหรียญในวัยเด็ก เห็นว่าเพื่อมีเงินเหรียญซื้อขนมซื้ออะไร จึงมาก่อเหตุแบบนี้
เบื้องต้นทางตำรวจสืบสวนจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงเรียน และ ตามเส้นทาง เพื่อหาเบาะแสคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป