สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ เดินหน้าจัดองค์ความรู้ด้านการย้อมสีผ้าด้วยวัสดุธรรมชาติ โดยเฉพาะการใช้ส่วนของเปลือกไม้มะหาด ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัด และดอกพะยอม ดอกไม้ประจำจังหวัด พร้อมเปิดบ้านศิลปินโอทอปด้านทอผ้าและย้อมสี ให้ศึกษาเรียนรู้วิธีการย้อมสีไหมแพรวา ด้วยสีที่ได้จากวัสดุธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงส่งเสริมและให้ความรู้ในการประกอบอาชีพกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดที่บ้านศิลปินโอทอปรุ่นใหม่ด้านทอผ้าและย้อมสีธรรมชาติของนายวิทวัส โสภารักษ์ ตั้งอยู่บ้านม่วงคำ หมู่ที่ 2 ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายมีชัย นาใจดี อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน จ.กาฬสินธุ์ จัดอบรมเพิ่มความรู้และประสิทธิภาพให้กับกลุ่มย้อมสีผ้าพื้นเมืองและเครือข่ายผลิตภัณฑ์ผ้าไทยใน จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ และกลุ่มเครือข่ายร่วมงาน
โดยหลังจากอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้และก่อนเข้าสู่ภาคปฏิบัติ ได้ร่วมกันปลูกไม้มะหาด ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้กลุ่มย้อมสีผ้าและเครือข่าย ร่วมกันอนุรักษ์ไม้พื้นเมืองชนิดต่างๆ เช่น มะหาด พะยอม มะเกลือ มะตูม ฯลฯ ที่จะนำส่วนของต้นไม้ เช่น เปลือก ใบ ดอก และผล ของพันธุ์ไม้ดังกล่าวมาทำสีธรรมชาติ เพื่อย้อมผ้าฝ้ายและผ้าไหมแพรวาได้สวยงาม ติดทนนาน เป็นที่ต้องการของลูกค้าผู้นิยมสวมใส่ผ้าไทย
นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การย้อมสีธรรมชาติ ถือเป็นเสน่ห์ของผลิตภัณฑ์ผ้าไทยของ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชน จ.กาฬสินธุ์ ได้บูรณาการความร่วมมือกับฝ่ายปกครอง ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกลุ่มผู้ผลิตผ้าทุกประเภท ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ในการยกระดับและปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ผ้า เช่น ในส่วนของการย้อมสีธรรมชาติจากส่วนของต้นไม้ ที่สำคัญได้แก่ ไม้มะหาด ต้นไม้ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และดอกพะยอม ดอกไม้ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ทั้งนี้ ยังจะได้ร่วมกับ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ ในการส่งเสริมการปลูกและอนุรักษ์ เพื่อใช้ประโยชน์ในการนำมาเป็นวัสดุสำหรับย้อมสีธรรมชาติ และให้เพียงพอต่อความต้องการ
ด้านนางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า ใน อ.สหัสขันธ์ มีกลุ่มทอผ้าและย้อมสีธรรมชาติ ทั้งผ้าฝ้ายและผ้าไหมหลายกลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มมีความเข้มแข็ง ดำเนินกิจกรรมในกลุ่มอย่างต่อเนื่อง สร้างงาน สร้างอาชีพและรายได้ตลอดปี ทั้งนี้ มีตลาดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นเมืองและผ้าแปรรูปหลายช่องทาง เช่น ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอปตามชุมชน ตามงานมหกรรมสินค้าระดับอำเภอ ระดับจังหวัดทุกภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีเอเย่นต์รับส่งทั่วไป ที่สร้างเม็ดเงินให้กับผู้ผลิตและกลุ่มผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ยังจะมีการส่งเสริมทั้งองค์ความรู้และทักษะ เพื่อพัฒนาศักยภาพ ให้มีความสามารถการแข่งขันด้านการตลาดต่อไป
ขณะที่นายวิทวัส โสภารักษ์ อายุ 34 ปี ศิลปินโอทอปด้านทอผ้าและย้อมสีธรรมชาติ กล่าวว่า ตนสืบทอดทักษะความรู้ด้านการย้อมสีผ้าฝ้าย ผ้าไหมแพรวา และการทอผ้าจากมารดามาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ รวมทั้งไปศึกษาทักษะฝีมือการทอผ้าเพิ่มเติมกับชุมชนบ้านโพน อ.คำม่วง มีการพัฒนาฝีมือจนเกิดความชำนาญทั้งการย้อมสีผ้าและทอมือ ทำให้เกิดความรู้สึกรัก ผูกพันผ้าไหมแพรวามากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งศึกษาช่องทางการตลาดควบคู่กันไป โดยยึดอาชีพทอผ้าไหมแพรวาเป็นอาชีพหลัก พร้อมจัดบ้านเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านย้อมสีและทอผ้า กระทั่งได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานพัฒนาชุมชน จ.กาฬสินธุ์เป็นบ้านศิลปินดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการเปิดบ้านศิลปินถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับกลุ่มย้อมผ้า ทอผ้าและเครือข่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผ้าไทยในครั้งนี้ นอกจากจะนำเปลือกไม้มะหาด ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และดอกพะยอม ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจ.กาฬสินธุ์ มาเป็นวัสดุในการย้อมสีธรรมชาติแล้ว ยังมีการสาธิตการย้อมสีไหมด้วยส่วนของเปลือก และใบ ของต้นไม้ชนิดต่างๆ รวมทั้งย้อมด้วยโคลน ตามภูมิปัญญาของชาวบ้าน และเป็นอัตลักษณ์ของการย้อมสีด้วยวัสดุธรรมชาติ ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์อีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอม นำทักษะไปใช้ในการดำเนินการย้อมสีผ้าฝ้ายและผ้าไหม ให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป