ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจสืบสวนจังหวัดหนองคาย จับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติ ระหว่างลำเลียงขึ้นฝั่งไทย ที่ริมแม่น้ำโขง จังหวัดหนองคาย ได้ของกลางเกือบ 1 ล้านเม็ด ผู้ต้องหา 2 คน สารภาพ เตรียมนำส่งนายทุนใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น
16 ม.ค. 66 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ มุสิกูล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.พรชัย ชะลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองหนองคาย ร่วมตรวจสอบยาบ้าจำนวน 998,000 เม็ด รถยนต์กระบะ ทะเบียน บม-2146 มหาสารคาม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซึ่งเป็นของกลางที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ตรวจยึดได้บริเวณบ้านหาดคำน้อย ตำบลหาดคำ อำเภอเมืองหนองคาย ซึ่งเป็นจุดที่พบการลักลอบนำยาเสพติดขึ้นเป็นประจำ หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่เข้าประเทศ โดยใช้เรือกีบหาปลา ข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตการณ์
พลตำรวจโทยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 เปิดเผยว่า หลังจากที่ตำรวจได้สืบทราบว่า จะมีการนำยาบ้าล๊อตใหญ่ส่งข้ามจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่จะนำมาส่งในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน จากนั้นมีรถยนต์กระบะ มาจอดเทียบท่า ก่อนจะมีชายฉกรรจ์ 3-5 คน ลงมาขนย้ายกระสอบขึ้นหลังรถกระบะ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ทำให้ต่างพากันหลบหนี เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้เพียง ได้ 2 คนทราบชื่อ นายพงศ์พล จิตไทย และนายศุภวรรต ดวงขันธ์ รับสารภาพว่าได้รับการวาาจ้าง คนละ 3 หมื่นบาท ขนย้ายยาเสพติด ไปส่งให้กับนายทุนในจังหวัดขอนแก่นมาแล้ว ทำมาแล้ว 1 ครั้ง โดยครั้งนี้ ได้รับค่าจ้าง 120,000 บาท แต่มาถูกจับเสียก่อน
กลุ่มขบวนการยาเสพติดที่จับกุมได้ครั้งนี้ ได้ลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศ เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งทางตำรวจได้สืบสวนจนสามารถจับกุมขบวนการได้ โดยหลังจากนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย หากยาเสพติดกระจายอยู่ใน ขอนแก่น หนองบัวลำภู และพื้นที่ใกล้เคียง
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า การแก้ปัญหายาเสพติด จำเป็นจะต้องทำให้ครบทุกมิติ โดยจากเหตุหารณ์คลุ้มคลั่ง และเหตุอาชญากรรมในช่วงที่ผ่านมา พบว่า มีกลุ่มที่ตกสำรวจจำนวนมาก ทำให้ควบคุมดูแลไม่ทั่วถึงจึงได้สั่งการ ให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัดทั้งหมด 252 สถานี ปูพรมสำรวจกลุ่มผู้ป่วยจากยาเสพติด เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรักษา ตามโครงการนาคาพิทักษ์รักษ์ประชา จากข้อมูลที่ตำรวจภูธรภาค 4 ได้เก็บรวบรวมไว้ พบว่า ยังมีผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่ต้องเฝ้าระวังกว่า 1,400 คน.