นายวิชัยฯอดีต ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย นำ นายณัฐวุฒิฯ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตั้งโต๊ะจุดธูป บอกลาศาลพระภูมิ ก่อนปลดป้ายอำลาพรรคเพื่อไทย ด้วยผ้าขาวม้าลงมา บ้านหลังเก่าที่เคยร่วมสร้าง เปิดป้ายใหม่ ที่มีข้อความว่า “2541-2565 รวม6 24 ปี แต่ต่อนี้ไม่มีพรรคเพื่อไทย”จากกันด้วยดี ด้วยความขมขื่น น้ำตาซึม จนพูดไม่ออก ขอไปซบพรรคใหม่ จะอยู่ไหนขอให้ ”อบอุ่น”
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย ถนนหนองบัวลำภู – เลย ก่อนจะเข้าสู่ตัวอำเภอนากลาง บ้านเลขที่ 255 หมู่ที่ 12 ต.นากลาง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ของ นายวิชัย สามิตร อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทยหลายสมัย พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เขต 3 นายรุ่งเพชร ศรีกาญจนา อดีต ส.อบจ.หนองบัวลำภู ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หนองบัวลำภู เขต 2 นายสุรชัย ทวีคูณ อดีต ส.อบจ.หนองบัวลำภู ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หนองบัวลำภู เขต 1 พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญในพื้นที่อำเภอนากลาง นักการเมืองท้องถิ่น ใส่เสื้อสีขาว มีตัวหนังสือสีน้ำเงินและชมพู ข้อความด้านหน้าว่า”จะอยู่ไหน ขอให้อบอุ่น “ ในรูปหัวใจ ส่วนด้านหลังเป็นรูปจับมือ ข้อความว่า “ไปด้วยกัน” ได้ร่วมกันทำพิธี ปลดป้ายอำลาพรรคเพื่อไทย ของ ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย
โดยในช่วงเช้าได้มีพิธีบวงสรวงศาลพระภูมิเจ้าหน้าที่โดยหมอพราหมณ์ได้นำทำพิธีบอกลาต่อศาลพระภูมิเจ้าที่ ภายในบริเวณบ้าน หลังทำพิธีบอกลาต่อพระภูมิเจ้าที่ นายวิชัย สามิตร ส.ส.หนองบัวลำภูหลายสมัย ได้กล่าวความรู้สึกที่มีต่อพรรคเพื่อไทย ให้กับผู้มาร่วมเพื่อบอกลา นั้น เสียงสั่นเครือ จนหายไปและกล่าวไม่ออก น้ำตาซึม จนต้องให้ นายประสิทธิ์ ชินภักดี ส.อบจ.หนองบัวลำภู เขต อำเภอนากลาง แกนนำคนสำคัญคนหนึ่งมากล่าว การอำลาพรรคเพื่อไทย แทน เสร็จจากนั้นได้มาร่วมกันปลดป้าย ของศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย ที่ประตูด้านหน้า ซึ่งผู้ร่วมปลดป้ายได้ช่วยกันใช้ผ้าขาวม้าไหม มัดป้ายลงมาอย่างช้าๆ พร้อมเปล่งเสียงว่า”พอกันที กับบ้านหลังนี้”ก่อนจะนำไปเก็บโดยหันป้ายเข้าติดกำแพง และจากนั้นได้ไปร่วมกันปลดป้ายไม้ที่บริเวณอาคารของศูนย์ประสานงานลงและเปิดป้ายใหม่ ทีมีข้อความว่า “ 2541-2565 รวม6 24 ปี แต่ต่อนี้ไม่มีพรรคเพื่อไทย”
นายวิชัย สามิตร อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู 4 สมัย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าก่อนจะวางมือทางการเมือง และให้นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี หลานชายลงสมัครแทน ในสมัยต่อมาปี 2562 ก่อนนั้นเป็นอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย, พรรคไทยรักไทย, พรรคพลังประชาชน ทั้งระบบเขตเลือกตั้งและเลือกตั้งทั้งจังหวัดหลายสมัย และได้สมัครเป็นสมาชิก และแจ้งความประสงค์ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง หลังจากการจดทะเบียนตั้งพรรคนับตั้งแต่เริ่มต้นตามหนังสือตอบ รับลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2541 อนุมัติโดย อดีตหัวหน้าพรรค (พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร) ในขณะนั้นได้ทำหน้าที่อย่างติดต่อและต่อเนื่องในฐานะเป็นว่าที่ผู้สมัคร
แต่เนื่องจากในขณะนั้น เป็นพรรคใหม่ยังไม่เป็นที่นิยมและรู้จักของพ่อแม่พี่น้องประชาชนมากนัก กระผมจึงพร้อมทีมงานทำงานหนักถึงหนักมากในช่วงเวลานั้นไม่มีเงินเดือนไม่มีค่าตอบแทนอาศัยปัจจัยที่พอหาได้จากการทำไร่ทำนา แต่ก็นำมาทำการเมือง เพราะใจรักอย่างทุ่มเทตลอดระยะเวลาจนนำสู่การเลือกตั้งพ.ศ. 2554 ด้วยรักและผูกพันที่มีให้กันและกันอย่างพี่น้อง ทั้งนี้กระผมมีปฏิภาณมุ่งมั่น หากได้หากได้รับเลือกตั้งจนผมได้เป็น ส.ส. และทำตัวเหมือนชาวบ้านธรรมดา ไม่เจ้ายศเจ้าอย่าง ไม่เป็นเจ้านายพบง่ายคุยง่าย ให้เกียรติกันเองกับทุกๆคน จนมีคนใช้ฉายาว่าเป็นผู้แทนติดดิน ต่อมาในปีสุดท้ายหลังปฏิวัติ 2557 ผมเห็นว่า อยู่กับการเมืองมานาน ทั้งระดับหมู่บ้าน,ท้องถิ่น,ระดับชาติ นับรวมแล้ว 26 ปีเป็นต้นมา ผ่านมาทั้งทุกข์ ทั้งสุข ทั้งสุ่มเสี่ยงในหลายหลายๆเรื่อง
พอเมื่อมีการเลือกตั้งปีพ.ศ. 2562 จึงได้สนับสนุนให้หลานชาย เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งแทนในนามพรรคเพื่อไทย และได้รับเสียงสนับสนุนด้วยคะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่งของจังหวัดหนองบัวลำภู ด้วยรักและผูกพันกันมาอย่างยาวนานทุกคนไม่ว่าจะครอบครัวญาติพี่น้องทุกคน เกิดมาคือสายเลือดพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันนี้กระผม ยังเป็นสมาชิกถาวรหมายเลขสมาชิก NE 39172117309 เมื่อพรรคไม่เห็นถึงคุณค่าในการทำหน้าที่แบบตรงไปตรงมา เป็นคนที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม จนทำให้เป็นที่มาของความไม่ไว้วางใจ
และมีผลกระทบต่อหลานของกระผมที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส.อยู่ปัจจุบัน ด้วยรักและผูกพันมาอย่างยาวนานวัน นี้รู้สึกใจหายที่จะต้องอำลา ขอกราบขอบพระคุณท่านอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กราบขอบพระคุณผู้หลักผู้ใหญ่ตลอดจนกรรมการบริหารพรรคพี่ๆเพื่อนๆตลอดจนเจ้าหน้าที่รักทุกๆท่านครับ และสุดท้ายนี้ขอฝากถึงบุคคลที่พรรคจะส่งลงในเขตนี้แทนหลานของกระผม ให้ทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกพรรค อย่าได้หลงหรือลืมเพราะอยู่คนละฝั่งกันมาและดีใจกับทางพรรคด้วยที่เลือกผู้ที่เคยอยู่ฝั่งตรงข้ามมาเป็นมิตร จะได้ลดจำนวนคนที่เคยด่าลงได้ส่วนหนึ่งครับ ขอกราบอวยพรให้ท่านจงประสบความสำเร็จ ด้วยความเคารพรักและผูกพันด้วยหัวใจ จากกันด้วยดี
ส่วนทางด้าน นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เขต 3 ได้กล่าวว่ากราบเรียน พ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวหนองบัวลำภู ก่อนอื่นกระผมขอกราบขอบพระคุณทุกคะแนนเสียงที่ได้รับความเมตตาและความไว้วางใจ จนได้คะแนนเสียงเป็นอันดับที่หนึ่งของจังหวัดหนองบัวลำภู ด้วยคะแนนสี่หมื่นกว่าเสียง กระผมได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ในฐานะส.ส. ของพรรคและเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศเปิดตัวผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งที่จะมีขึ้น และในขณะเดียวกันได้มีบุคคลมาขึ้นป้ายประชาสัมพันธ์เปิดตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 จังหวัดหนองบัวลำภู ในนามพรรคเพื่อไทยตามที่ปรากฏในขณะนี้ ทำให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนเกิดความสับสนและเป็นปัญหาใน การทำหน้าที่ของกระผมตลอดมา โดยที่ทางพรรคก็มิได้ให้คำชี้แจงใดๆให้กระผมและสาธารณชนรับทราบ แต่พอทราบได้ว่าทางพรรคจะให้กระผมลงสมัครแบบบัญชีรายชื่อ โดยให้บุคคลดังกล่าวลงสมัครแบบแบ่งเขตในเขต 3 แทน ซึ่งไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกระผมและพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่มีความประสงค์จะให้กระผมลงสมัครรับใช้เป็น ส.ส. เขต 3 เหมือนเดิม
เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ กระผมจึงได้เรียนถามความเห็นและรับฟังข้อแนะนำจากทุกภาคส่วน รวมถึงพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดหนองบัวลำภู โดยส่วนใหญ่ได้ให้ความเห็นใจ ให้กำลังใจพร้อมทั้งแนะนำให้ กระผมหาพรรคใหม่เพื่อลงสมัครในเขต 3 เหมือนเดิม ซึ่งทั้งนี้เสียงส่วนใหญ่ได้แนะนำให้กระผมลงสมัคร ในนาม “พรรคไทยสร้างไทย” โดยการนำของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ด้วยกระผมเป็น ส.ส. ผู้น้อย ไร้ซึ่งอำนาจบารมีที่จะไปต่อรองหรือเรียกร้องใด ได้ เมื่อพรรคเพื่อไทยมองไม่เห็นคุณค่าของกระผมและคะแนนเสียง 40,000 กว่าคะแนน ที่เลือกกระผมเข้ามาทำหน้าที่ ส.ส. เขต 3 จังหวัดหนองบัวลำภู กระผมจึงตัดสินใจที่ จะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยนับแต่นี้เป็นต้นไป
และเพื่อมิให้เกิดความสับสน และทำให้เกิดความ ชัดเจนต่อทุกฝ่าย ไม่ว่าทางพรรค ทางว่าที่ผู้สมัคร และทางตัวกระผมเองครับ กระผมขอยืนยันต่อพ่อแม่พี่ น้องประชาชนในเขต 3 ว่ากระผมจะไม่ไปยื้อแย่งของใคร ซึ่งเป็นการไม่ให้เกียรติ ไร้ซึ่งศักดิ์ศรี และเป็นการ ไร้มารยาทในทางการเมืองโดยเด็ดขาดครับ ท้ายนี้ กระผมขอกราบขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ให้ความเมตตาและให้ความห่วงใย สอบถามความเป็นไปเป็นมาอยู่เสมอ ซึ่งกระผมก็ยังไม่สามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้ แต่ด้วยรัก ศรัทธาและเชื่อมั่น ในความเมตตาของพ่อแม่พี่น้องประชาชน เขต 3 กระผมจึงขออาสาลงสมัครแบบเขตเลือกตั้ง เหมือนเดิม กระผมขอกราบขอบพระคุณอีกครั้งหนึ่งที่ทุกท่านจะยืนเคียงข้างให้ความเมตตาครับ เรามาร่วม สร้างความยุติธรรม เพื่อรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของพ่อแม่พี่น้องทุกท่านด้วยกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ เราจะก้าวสู้ไปข้างหน้าร่วมกันตลอดไป ด้วยรักและศรัทธา
นอกจากนั้น นายรุ่งเพชร ศรีกาญจนา อดีต ส.อบจ.หนองบัวลำภู ว่าที่ผู้สมัครพรรคไทยสร้างไทย เขตเลือกตั้งที่ 2 หนองบัวลำภู ผู้ที่มาชักชวนให้ นายวิชัย สามิตร อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู หลายสมัย และ นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ส.ส.หนองบัวลำภู เขต 3 ไปร่วมลงสมัครพรรคไทยสร้างไทย ได้กล่าวว่า ตนเองเป็น อดีต ส.อบจ.หนองบัวลำภู เขต อำเภอศรีบุญเรือง ครอบครัว ศรีกาญจนา เป็นครอบครัวที่อยู่ในอำเภอศรีบุญเรืองมาตลอด และเป็นครอบครัวที่ทำการเมืองท้องถิ่นมาตั้งแต่สมัยคุณแม่อมร ศรีกาญจนา เป็น ส.อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัดอุดรธานี และพี่ชาย ก็ยังเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมาตลอด 40 ปี
วันนี้พี่น้องทุกคนยุติบทบาทนักการเมืองท้องถิ่น ผมขออาสาเดินหน้าเพื่อที่จะเตรียมลงการเมืองระดับประเทศ ซึ่งตนเองได้ปรึกษากับพี่น้องและครอบครัวทุกคนทุกคนก็สนับสนุนเห็นชอบให้กำลังใจ เห็นชอบในการลงการเมืองระดับประเทศ เพื่อที่จะพัฒนาจังหวัดหนองบัวลำภูให้เป็นบ้านเกิดของตนเอง และต่อมาทราบข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ท่านได้มาตั้งพรรคการเมืองคือพรรคไทยสร้างไทย กระผมได้มีโอกาสเข้าพบคุณหญิงสุดารัตน์ฯ เพื่อทราบถึงนโยบายของพรรค ถึงตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกของพรรค และเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 2 จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นการลงพื้นที่เวลาเกือบ 1 ปี ที่ได้ลงพื้นที่เขต 2 โดยได้นำเสนอนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท เพื่อคนตัวเล็ก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
พอมาวันนี้( 10 มกราคม 2566) ผมทราบข่าวว่า ส.ส.ณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี หรือ ส.ส.เท่ห์ ได้ถูกกระทำจากพรรคว่าจะไม่ให้ลงสมัคร ส.ส.ในเขตเลือกตั้ง โดยจะให้ขึ้นไปอยู่ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งตัวกระผมเองได้ชื่นชมในตัว ส.ส.ที่เป็นการส่วนตัวเพราะท่านเป็น ส.ส.หนุ่มที่ทำงานหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง ดังนั้นเป็นโอกาส นี้ผมจึงได้ชักชวนไปร่วมงานกันกับพรรคไทยสร้างไทย ของสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ด้วยกัน และได้นำเรียนคุณหญิงฯ เป็นการเบื้องต้น คุณหญิงฯ ก็ได้มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งและดีใจที่จะได้ร่วมทำงานด้วยกัน ผมจะได้นำพา ส.ส.ไปพบคุณหญิงฯ เพื่อที่จะหารือในแนวทางการเลือกตั้งต่อไป ซึ่งในโอกาสนี้ผมขอโอกาสให้กับคนหนองบัวลำภูโดยกำเนิดทั้ง 3 เขตได้เข้ามารับใช้พ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดหนองบัวลำภูในการเลือกตั้งที่จะมาถึงในครั้งนี้ด้วยครับ
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ ขตว.หนองบัวลำภู