กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ สภ.เมืองขอนแก่น ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุจำลองเหตุการณ์กราดยิง Active shooter ให้กับพนักงานภายในห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล พลาซ่าขอนแก่น ฝึกทักษะการเอาชีวิตรอด 3 ขั้นตอน คือ หนี ซ่อน สู้ หากตกอยู่ในสถานการณ์จริง
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 การฝึกเอาตัวรอดจากสถานการณ์ คนร้ายก่อเหตุ “กราดยิง” โดยมีการจำลองเกตุการณ์ว่าทันทีที่คนร้ายเป็นชายชุดดำ สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าเดินทางมาถึงบริเวณลานข้าวเหนียว หน้าห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น ได้เปิดฉากใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงพนักงาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และประชาชนที่อยู่บริเวณประตูทางเข้าห้างฯ ชั้น 1 ทำให้ทุกคนต้องรีบวิ่งหนีเข้าไปภายในห้างฯ เพื่อเอาชีวิตรอด แต่ก็ยังมีคนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนอนจมกองเลือดบนพื้นห้าง ก่อนที่คนร้ายพร้อมอาวุธปืนจะเดินไปตามชั้นต่างๆ เพื่อหมายเอาชีวิตของผู้คนที่กำลังวิ่งหนีและหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้างฯ ด้วยความตกใจกลัว ซึ่งในระหว่างที่คนร้ายที่อยู่อาการบ้าคลั่งกำลังเดินหาผู้คนที่กำลังหลบซ่อน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างฯ ก็ได้โทรศัพท์แจ้งเหตุไปยัง 191 เพื่อขอความช่วยเหลือหลังจากตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคอมมานโด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะระดมกำลังกันลงพื้นที่เพื่อระงับเหตุและช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ภายในห้างฯ
โดยสถานการณ์ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถวิสามัญคนร้ายที่ยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณชั้น 2 ของห้างฯ ได้สำเร็จ แต่เหตุการณ์ก็ยังไม่คลี่คลาย เนื่องจากคนร้ายได้มีการวางกระเป๋าสะพายไว้ที่บริเวณร้านกาแฟ ซึ่งข้างในอาจมีวัตถุอันตรายอยู่ภายในกระเป๋า ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องประสานเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เข้ามาตรวจสอบ โดยได้นำเอาหุ่นยนต์ตรวจการณ์เข้าตรวจสอบ เมื่อพบว่าเป็นวัตถุคล้ายระเบิด เจ้าหน้าที่ EOD จึงนำเครื่องมือและอุปกรณ์เข้าปลดฉนวนระเบิดได้สำเร็จ จากนั้นจึงเข้าเคลียพื้นที่ภายในห้างฯ และช่วยเหลือพนักงานและประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ โดยทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ที่ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และ สภ.เมืองขอนแก่น จำลองเหตุการณ์ขึ้นมาเพื่อซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ กรณีเกิดเหตุการณ์กราดยิงภายในห้างฯ เพื่อเป็นการฝึกทักษะการเอาชีวิตรอดให้กับพนักงาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และประชาชนที่ตกอยู่ในเหตุการณ์ โดยยึดหลักการ 3 ข้อ คือ หนี ซ่อน สู้
พ.ต.ท.สุรัตน์ วันทะมาตร รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.ท่าพระ จ.ขอนแก่น และวิทยากร กล่าวว่า การจำลองเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการฝึกทักษะและวิธีการเอาชีวิตรอดจากเหตุกราดยิงภายในห้างสรรพสินค้าให้กับเจ้าหน้าที่ พนักงาน และประชาชนที่อยู่ภายในห้างฯ โดยการยึดหลักการ 3 ข้อ คือ ข้อแรก หนี การหนี เมื่อไปสถานที่ต่าง ๆ ให้จดจำทาง เข้า-ออก และทางออกฉุกเฉินให้เป็นนิสัย เมื่อเกิดเหตุ ต้องตั้งสติให้ดี และมองหาเส้นทางในการหลบหนี ทิ้งของทุกอย่างที่ไม่จำเป็น ช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่สามารถช่วยได้ และสุดท้ายเมื่ออยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้วให้โทรแจ้ง 191 ทันที ข้อสอง การซ่อน คือ ต้องล็อกประตู และหาสิ่งของมาใช้กีดขวางคนร้ายเพื่อไม่ให้มาถึงตัว ซ่อนให้พ้นสายตา โดยหลบหลังสิ่งของขนาดใหญ่และแข็งแรง ปิดไฟในห้อง และปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ อยู่ให้เงียบที่สุด ไม่พูดคุยหรือใช้เสียง และข้อสาม การสู้ สู้ เป็นทางเลือกสุดท้าย เมื่อไม่สามารถหนี หรือซ่อนตัวจากคนร้ายได้ และคนร้ายกำลังจะเข้ามา โดยร่วมกันสู้สุดกำลังเพื่อให้มีโอกาสรอดใช้การซุ่มโจมตีโดยไม่ให้คนร้ายรู้ตัวเพื่อหยุดยั้งคนร้าย ใช้สิ่งของทุกอย่างที่หาได้มาเป็นอาวุธ ใช้ทุกวิธีการที่นึกได้ ในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด
พ.ต.ท.สุรัตน์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครสามารถทราบล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นหรือไม่ เมื่อใด และสถานที่ใด ดังนั้นทางตำรวจภูธรภาค4 โดย พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น จึงมีความห่วงใยในเรื่องนี้ จึงได้มีการจัดการฝึกอบรมและส่งเจ้าหน้าที่ออกไปซักซ้อมแผนฯ เพื่อให้ความรู้กับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปให้ความรู้กับสถานศึกษา หน่วยงายภาครัฐ ห้างสรรพสินค้า และจะมีการขยายแผนไปยังหมู่บ้าน ชุมชนต่อไป