สองตายายขับรถยนต์กระบะจี้ก่อนจะถูกแก๊งค์ตบทรัพย์ขับรถมาเบียด ประกบ 2 ข้างแล้วเกิดเฉี่ยวชนได้รับความเสียหาย ก่อนจะถูกเรียกเงิน 5,000 บาท สุดท้ายต่อรองเสียเงิน 1,500 บาท พบรูปพรรณเป็นคนอ้วนและคนผอม
6 ก.ย. 2565 สภาพรถยนต์กระบะ โตโยต้า สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน บบ-5642 ขอนแก่น ของนายสมัย มหัทธะศิลา อายุ 70 ปี บริเวณตัวถังติดกับล้อหลังด้านซ้ายมีร่องรอยถูกเฉี่ยวชน กับคู่กรณีแล้วถูกเรียกค่าเสียหาย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา บนถนนสายมัญจาคีรี-โคกโพธิ์ไชย อ.มัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ก่อนจะถูกคู่กรณีเรียกเงินค่าเสียหายจำนวน 5,000 บาท
นายสมัย มหัทธะศิลา อายุ 70 ปี เล่าว่า ในวันดังกล่าวตนเงอพร้อมนางวิลาวรรณ มหัทธะศิลา อายุ 69 ปี ภรรยาของตนเอง ได้ขับรถเดินทางมุ่งหน้าไป เพื่อจะไปทำธุระที่ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ โดยใช้เส้นทางถนนสาย มัญจาคีรี-แก้งคร้อ เมื่อมาถึงบริเวณ บ้านเขวา บ้านขุมดิน อำเภอมัญจาคีรี มีรถยนต์กระบะสีบรอนด์ ยี่ห้อโตโยต้าแคป ขับอยู่ข้างหน้า จึงขับรถแซงขึ้นไป ขณะแซงก็มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าสีขาว ไม่ทราบทะเบียน ขับจี้หลังมา จึงเหยียบคันเร่งแซงรถยนต์กระบะคันที่วิ่งอยู่เลนซ้าย จังหวะแซงรู้สึกเหมือนรถตกหลุม แต่หลังจากแซงได้ประมาณ 100 เมตร รถกระบะคันที่ถูกแซงมา ได้ขับปาดหน้า โบกมือให้จอดข้างทาง
หลังจอดรถ มีชาย รูปร่างอ้วน ที่นั่งข้างคนขับลงจากรถ และตามด้วยชายรูปร่างผอมสูง ทั้งสองคนอายุ ประมาณ 40 ปี เดินมาหาพร้อมกับพูดว่า ชนแล้วหนีทำไม ซึ่งตนเองก็ยังตกใจว่าไปชนตอนไหน ต่อมาจึงลงจากรถไปคุยกับชายทั้ง 2 คน โดยชายรูปร่างผอม ด่าทอและพูดจาหยาบคาย ทั้งยังบอกว่าถ้าเป็นผู้ชายต้องตายเป็นศพอยู่ตรงนั้น ในขณะที่ชายอ้วนบอกว่า ชนแล้วไม่ต้องหนี เพียงแค่จ่ายเงินมาให้ 5,000 บาท ก็จบกันไป ภรรยาจึงบอกว่า มีเงินเพียง 500 บาท แต่ชายสองคนไม่ยอม และบอกจะแจ้งตำรวจ แต่รอตำรวจอยู่นานก็ไม่มาซึ่งช่วงที่รอตำรวจก็ถูกชายรูปร่างผอม ข่มขู่ต่างๆนานา และต่อรองเรื่องเงินมาที่ 3,500บ าท 2,500 บาท สุดท้ายชายสองคนขอเงิน 1,500 บาท จึงยอมจ่ายให้ เมื่อชาย 2 คนได้เงินก็ขับรถไปทันที
นายสมัย กล่าวอีกว่า จากการดูรถกระบะของชายทั้ง 2 คน พบว่า ที่บริเวณแก้มซ้ายของรถ มีรอยชนยุบ คล้ายเกิดอุบัติเหตุมาหลายครั้ง แก้มขวาก็มีรอยชนเช่นกัน จึงฉุกคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ น่าจะเป็นการกระทำของแก็งค์ตบทรัพย์ ที่รวมตัวเป็นมิจฉาชีพ เห็นผู้สูงอายุ ขับมาจึงขับรถเฉี่ยวเพื่อตบทรัพย์ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่ได้เข้าแจ้งความ เพียงแค่บอกลูกชายให้ทราบและแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน ให้ระวังแก็งค์ตบทรัพย์ที่อาจจะก่อเหตุ ทำให้สูญเสียทรัพย์สินได้
ด้านนางวิลาวรรณ ผู้เสียหายเล่าว่า หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์เรียกลูกชายที่อยู่บ้านในตัวเมืองขอนแก่น เพื่อให้ออกมาดูตนเองและพ่อเพราะคู่กรณีเรียกเงินค่าเสียหายจำนวน 5,000 บาท เพราะตนเอง มีเงินติดตัวเพียง 500 บาท หลังเกิดเหตุยังไม่ได้แจ้งความเพราะอยากให้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นอุทาหรณ์ว่ายังมีแก็งค์ตบทรัพย์อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดขอนแก่น ให้ระมัดระรังเห็นท่าไม่ดีให้รีบแจ้งตำรวจทันที.