เมื่อเวลา9.00 น.วันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายโสภาพ เห็มทอง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัย อำเภอปากชม จังหวัดเลยว่า เมื่อวานนี้ 21 ก.ค.2565 นางอุราวัตน์ อินถา อายุ 56 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัยอำเภอปากชม จังหวัดเลย ผู้เสียหายผู้กล่าวหาที่ 3 และ นายโสภาพ เห็มทอง
ปลัดองค์การบริหารงานห้องถิ่นระดับกลาง ผู้เสียหายผู้กล่าวหาที่ 2 และนายอุเทศ เบ้าแก้ว อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัย เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ น.ส. ทิวาภรณ์ บัวรมย์ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 124 หมู่ 6 ตำบลปากชม อำเภอปากชม จังหวัดเลย ขณะเกิดเหตุและปัจจุบัน รับราชการ ตำแหน่งนักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการประจำองค์การบริหารส่วนตำบลห้วย
พิชัย อำเภอ ปากชม จังหวัดเลย ซึ่งเป็นหนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นเจ้าหน้าที่การเงินขององค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัยและรักษาการณ์ในตำแหน่งผู้อำนวยการ เกี่ยวกับการเงินได้รับการแต่งตั้งจากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัย ให้เป็นผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อในเช็คของคลังองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัย มีหน้าที่
ลงลายมือชื่อร่วมกับ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัย และปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัย ในการเบิกจ่ายเงินตามเช็คขององค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัย น.ส.ทิวาภรณ์ฯปลอม ลายมือชื่อของนางอุรารัตน์ อินถา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัย(คนปัจจุบัน) จำนวนหลายครั้งลงในเช็คธนาคารออมสิน สาขาปากชม สั่งจ่ายร้านเอพีคอนสตัครชั่น โดยนายแห่ว พึ่งมี คือ เมื่อ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565จำนวน 3 ครั้ง,วันที่ 14กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 1 ครั้ง และเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 1 ครั้ง และ น.ส. ทิวกรณ์ฯ ได้ปลอมลายมือชื่อของนายโสภาพ เห็มทอง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัย จำนวนประมาณ 24 ครั้ง ลงในเช็คธนาคารออมสิน สาขาปากชม
สั่งจ่ายร้านเอพีคอนสตัครชั่น โดยนายแห่ว พึ่งมี คือ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 จำนวน 3 ครั้ง,วันที่ 27 มกราคม 2565 จำนวน 1 ครั้ง และเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 2 ครั้ง และ น.ส.ทิวากรณ์ฯได้ ปลอมลายมือชื่อของ นายอุเทศ เบ้าแก้ว อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัยขณะดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหาร
ส่วนตำบลห้วยพิชัย จำนวน 15 ครั้ง ลงในเช็คธนาคารออมสิน สาขาปากชม สั่งจ่ายร้านเอทีคอนสตรัคชั่น โดยนายแห่ว เพิ่งมี คือ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 จำนวน 1 ครั้ง,เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 จำนวน 3ครั้งฯลฯ
ต่อมาเมื่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)เข้าตรวจสอบรายงานการเงินขององค์การบริหารส่วนตำบล ห้วยพิชัย ระหว่างวันที่ 5-19 กรกฎาคม 2565 และ สตง.ได้สรุปผลตรวจรายงานการเงินฯปรากฏว่ามีการเบิกจ่ายเงิน จากบัญชีธนาคารอมสินสาขาปากชมขององค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัยและบัญชีเงินฝากธนาคาร กระแสรายวัน ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร สาชาปากชม ขององค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัย ปรากฏว่ามีการเบิกจ่ายเงิน แต่ไม่มีต้นขั้วเช็คและไม่มีหลักฐานการเบิกจ่าย เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัยได้รับความเสียหาย เบื้องต้นเป็นเงินรวม 40,252,959.39 บาท (สี่สิบล้านสองแสนห้าหมื่นสองพันเก้าร้อยห้าสิบเก้าบาทสามสิบเก้าสตางค์) โดยผู้แจ้งทั้ง 3 ทราบเหตุการณ์กระทำผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 จึงมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ น.ส.วาภรณ์ บัวรมย์ ผู้กระทำผิดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
นายโสภาพ เห็มทอง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพิชัยกล่าวว่า ขณะนี้สืบทราบว่า ผู้กระทำผิดได้เดินข้ามไปหลบหนียังฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งมีญาติอยู่หลายแห่ง แจ้งไปยังธนาคารหลายแห่ง เพื่ออายัดทรัพย์ โดยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ
ดำรงค์ รักษ์จรรยาวงศ์ / จ.เลย