เกษตรทำเงินเกษตรกรชาวอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ฝ่าวิกฤติราคายางตกต่ำ ตัดใจโค่นต้นยางพารากว่า 3,000 ต้นอายุ 6 ปี ในเนื้อที่ 40ไร่ ทิ้งเกลี้ยง หันมาปลูก อินทผลัม ทดแทน สร้างรายไ ด้อย่างดี แถมมีรสชาติ หวาน กรอบ อร่อย เนื้อเย่อะ เมล็ดเล็ก ปลอดภัยจากสารเคมี ลูกค้าเข้าจองถึงไร่
วันที่ 20 ก.ค. 65 ที่ บริเวณไร่อินทผลัมภูมาลี บ้านยางคำ หมู่ที่ 6 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เนื้อที่ 40 ไร่ ได้ปลูก อินทผลัม จำนวน 800 ต้น ที่กำลังออกผลผลิตจำนวนมาก ซึ่ง อินทผลัม เป็นหนึ่งในผลไม้ทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้รักสุขภาพ ซึ่งเป็นไร่ของ นางยุวรัตน์ ชุมพลภักดี อายุ 58 ปี เดิมพื้นที่ดังกล่าวได้ปลูกยางพารา พอต้นยางมีอายุครบ 6 ปีเต็ม ก็ได้ทำการกรีดยางพาราครั้งแรก เพื่อเอาทุนคืน เมื่อกรีดปรากฎว่ามีน้ำยางออกมาน้อยมาก แถมราคายางยังตกต่ำต่อเนื่อง จึงตัดสินใจโค่นทิ้งทั้งหมด แล้วหันมาปลูก อินทผลัม ทดแทนช่วงแรกพบปัญหาผลผลิตไม่ดีและกลายพันธุ์รสชาติไม่ดี มีรสฝาด ขายไม่ได้ จากนั้นจึงได้เปลี่ยนสายพันธุ์ใหม่ คือ อินทผลัม สายพันธุ์บาร์ฮี และสายพันธุ์อัมเอ็ดดาฮาน จำนวน 800 ต้น ที่เพาะเลี้ยงจากเนื้อเยื่อโดยตรง มาปลูกทดแทน จนถึงปัจจุบันอินทผลัมอายุประมาณ 6-7 ปี ได้ออกลูกดก ถือว่าประสบความสำเร็จมาก
ด้าน น.ส.เพ็ญประภา เลิศนามล อายุ 30 ปี ผู้ดูแลไร่อินทผลัมภูมาลี กล่าวว่า ไร่อินทผลัมภูมาลี มีนางยุวรัตน์ ชุมพลภักดี เป็นเจ้าของ ปลูกไว้จากนั้นได้เดินทางไปทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ ได้มอบให้ตนเป็นผู้ดูแล ไร่อินทผาลัมภูมาลี แห่งนี้แทน ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากเกษตรกร ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถึงวิธีการปลูกอินทผลัม เนื่องจากไร่อินทผาลัม นี้เป็นแห่งแรก ในพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ ที่ใช้ต้นพันธุ์ที่เพาะจากเนื้อเยื่อโดยตรงมาปลูก การให้น้ำใช้ระบบสปริงเกอร์ เพื่อให้น้ำกระจายทั่ว และที่สำคัญอีกอย่างคือเป็นไร่อินทผลัมที่ปลอดสารเคมี โดยก่อนการเก็บเกี่ยวผลผลิตระยะเวลา 3 เดือน จะไม่ใช้สารเคมีอย่างเด็ดขาด เพื่อรักษาคุณภาพของอินทผลัมไม่ให้มีการปนเปื้อนสารเคมี และอินทผลัม ในไร่สามารถเก็บสดๆจากต้นทานได้เลย
จึงมีลูกค้าเข้ามาจองกันถึงไร่จำนวนมาก ซึ่งเอกลักษณ์ของอินทผลัมที่ไร่อินทผาลัมภูมาลี ที่ได้รับความสนใจคือ มีรสหวาน กรอบ เนื้อเย่อะ อร่อย เมล็ดเล็ก ปลอดภัยจากสารเคมี โดยอินทผลัมได้ทยอยสุกและเริ่มตัดขายได้ตั้งแต่กลางเดือน ก.ค.-ส.ค. เชื่อว่าจะสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 1 แสนบาท โดยจะขายหน้าไร่เป็นหลัก ราคาขายหน้าไร่ 350 บาทต่อกิโลกรัม
น.ส.เพ็ญประภา เลิศนามล กล่าวต่อว่า นางยุวรัตน์ฯ เจ้าของไร่มีความตั้งใจจะให้ ไร่อินทผาลัมภูมาลี แห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ซึ่งขณะนี้กำลังปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบแคมป์ปิ้ง กางเต็นท์ นอนค้างแรม ซึ่งใน “ไร่อินทผาลัมภูมาลี” จะมีร้านกาแฟ ร้านอาหารไว้คอยบริการ รวมทั้งห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ อำนวยความสะดวกครบครัน สนใจสอบถามได้ที่เบอร์ 089-230592
:ภาพ-ข่าว พันธลภ แสงทอง(ฤาษีลภ)-อภิชาติ แสงรุ่ง จังหวัดหนองคาย